“ THE ORIGIN “

เชื่อว่าเพื่อนๆนักลงทุนหลายๆคนต้องได้เห็น หรือผ่านตากันมาบ้างแล้ว กับโฆษณาสีรุ้ง ที่ Origin property ปล่อยออกมาซักพักใช่ไหมครับ? ครั้งนี้ ออริจิ้นมาพร้อมกับแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดที่ยกชื่อบริษัทมาเป็นชื่อแบรนด์เองซะเลย กับแบรนด์ “The Origin” 6 โครงการ 6 ทำเล ราคาเริ่มล้านต้นๆ จับกลุ่มตลาด First Jobber ที่เป็น Local Demand ของพื้นที่ และแน่นอนว่าเป็น Real Demand ของโครงการเอง  ถ้าเพื่อนๆนักลงทุน คนไหนที่อยู่ในวงการอสังหาฯ มาซัก 1-2 ปี น่าจะคุ้นเคยกับ กลยุทธ์แบบนี้ดี เพราะออริจิ้นเองก็เคยเลือกใช้ “กลยุทธ์ทะเลสีคราม”หรือ Blue Ocean แบบเดียวกันนี้ในทำเล แถวๆเทพารักษ์ จุดตัดรถไฟฟ้าสองสายเขียว-เหลือง ถ้าจำไม่ผิดโครงการนั้น Sold Out ไวมากครับ ลองไปสืบกันต่อว่าเป็นโครงการไหนแล้วกันนะครับ แต่สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดโครงการเด็ดๆ แบบนี้ละก็ The Origin แบรนด์ที่กลับมาด้วยกลยุทธ์แบบเดียวกันเป๊ะ! เปิดตัวโครงการแรกกับ The Origin  RAM 209 Interchange บนจุดตัดรถไฟฟ้าสองสายส้ม-ชมพู

3 จุดแข็ง “กลยุทธ์ทะเลสีคราม”

Project Info

LOCATION

โครงการตั้งอยู่บนถนน รามคำแหง ติดสถานีมีนบุรี Interchange ใกล้ซอย รามคำแหง 209 อยู่ใกล้สี่แยก รามคำแหง – มีนบุรี เยื้องไทวัสดุ ถ้ามาจากถนนรามคำแหง จะเห็นโลตัสโฮมโปรสุขา3 บิ๊กซีสุขา 3 จะต้องขึ้นสะพาน ข้ามคลองแล้วชิดซ้าย โครงการจะอยู่ซ้ายมือเลยตีน สะพานมานิดนึง ถ้ามาจากร่มเกล้า เลยมหาลัย เกษมบัณฑิต เจอบิ๊กซีร่มเกล้าให้ ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวซ้าย เลี้ยว มาแล้วตรงมากลับรถใต้สะพาน พอกลับรถแล้วโครงการจะอยู่ ซ้ายมือเลยครับ

สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็น โครงการอยู่ห่างจากสถานี Interchange ในอนาคตของสายสีชมพูและสายสีส้ม เพียง 80 เมตรเท่านั้นครับ
รถไฟสายสีส้ม มีจุดเชื่อมต่อ Interchange 8 จุด รวมระยะทางทั้งหมด 39.6 กม. ภายมในระบบเป็นรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Heavy Rail Transit System) สามารถขนส่งผู้โดยสารประมาณ 50,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง รถไฟฟ้าสายสีส้ม แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ 1. ช่วงตลิ่งชัน – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 2. ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี สำหรับสถานีมีทั้งหมด 29 สถานีด้วยกัน โดยแบ่งเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน 22 สถานี (ตลิ่งชัน-คลองบ้านม้า) และรถไฟฟ้ายกระดับ 7 สถานี (สัมมากร-สุวินทวงศ์)
รถไฟสายสีชมพู มีจุดเชื่อมต่อ Interchange 4 จุด รวมระยะทางทั้งหมด 34.5 กม.ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) โดยรถไฟฟ้าจะเป็นแบบ 3 ถึง 4 ตู้ต่อหนึ่งขบวนสามารถขนส่งผู้โดยสารประมาณ 30,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง รถไฟสายสีชมพู เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจขนาดย่อมใน ย่านชานเมืองที่อำนวยความสะดวกให้กับคนกรุงเทพและ นนทบุรีในการติดต่อกับหน่วยงานราชการมากขึ้น อย่างการเดินทางเข้าสู่ผ่านศูนย์ราชการในพื้นที่กรุงเทพฯ และ นนทบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการขนาดใหญ่ที่จะมี ประชาชนเข้ามาติดต่อในแต่ละวันไม่น้อยกว่า 1 หมื่นคน อาทิเช่น กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรม ที่ดิน กรมศุลกากร ฯลฯ

Facility

Investment view

โครงการ The Origin RAM 209 Interchange ขายห้อง เป็น Fully Fitted ค่ะ ในราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาทเท่านั้น (ลดจากโปรโมชั่นช่วง เปิดจองครั้งแรกแล้ว 200,000 (มิ.ย.19)) โครงการให้ เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี ห้องน้ำ แอร์ และ Smart Mirror (สำหรับห้อง 1 Bed Plus) มาให้แล้วทุกยูนิต ในราคาเริ่มต้น 1.29 ล้าน เฉลี่ยประมาณ 69,500 บาท/ตร.ม. ได้ห้องแบบ Fully Fitted ที่เกือบจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบทุกชิ้น ขาดก็แต่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางส่วนเท่านั้น ก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ..แนะนำพื่อนๆ ที่มองโครงการนี้สำหรับการลงทุน ใช้เงินลงทุนเพิ่มเฟอร์นิเจอร์บางรายการที่เป็นชิ้นๆ ก็ปล่อยเช่าได้เลยค่ะ เลือกเป็นชิ้นลอยตัวซึ่งจะง่ายต่อการเปลี่ยนใหม่เวลาผู้เช่าคืนห้อง
แถมโครงการนี้เห็นกลุ่มลูกค้าที่จะมาเป็นลูกค้าเช่าห้องชัดเจน อย่างกลุ่มนักศึกษา เพราะโครงการอยู่ใกล้โรงเรียนชั้นนำและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง กลุ่มทำงานในเมืองเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในอนาคต และกลุ่มเจ้าของ SME รายย่อยที่มีโรงงานอยู่บริเวญชานเมืองละแวกนี้  ..ปล่อยเช่ากินกำไรไปเรื่อยๆ ก็ได้ค่าเช่าประมาณ 7,000-10,000 ต่อเดือน เพราะในละแวกนี้เอง ราคาเช่าทั่วไปมีตั้งแต่ราคา 1,800 บาทต่อเดือนเป็นห้องเช่าไม่มีแอร์ไม่มีระเบียงไปจนถึงเซอร์วิชอพาร์ทเม้นท์ 80ตารางเมตร ราคาเช่า 18,000 บาทต่อเดือน แน่นอนว่ามีพื้นที่ส่วนกลางสู้โครงการนี้ไม่ได้ครับ พื้นที่ส่วนกลางรวมทั้งเซอร์วิชต่างๆที่โครงการมีให้ เรียกว่าเป็นจุดขายที่จูงใจผู้เช่าได้มากที่เดียว หากลองคำนวน Yield จากข้อมูลราคาเช่าที่หามาได้ จะอยู่ที่ประมาณ 5-7% เลยนะครับ ถ้าซื้อลงทุนก็เก็บกำไรค่าเช่าไปก่อน ในอนาคตรถไฟฟ้าเปิดใช้ ราคาวิ่งไปไกลอีกแน่นอนครับ…

สำหรับ Product ห้องพักอาศัยของโครงการ หลักๆแล้วมีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ด้วยกันครับ ขนาดเล็กสุดของโครงการเริ่มที่ type Studio ครับ

Studio 22.0 ตร.ม. 
1 Bedroom 25.0 ตร.ม.
1 Bedroom Smart Cloth 25.0 ตร.ม.
1 Bedroom Plus 30.0 ตร.ม.
1 Bedroom Plus 34.0 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างโครงการทำไว้ 4 แบบ ซึ่งเราเก็บภาพห้องตัวอย่างมาฝากเพื่อนๆถึง 3 แบบเลยครับ …ไปเริ่มเปิดห้องตัวอย่างกัน!!

“STUDIO 22 SQ.M.”

เริ่มกันที่ห้อง Studio ขนาด 22.0 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือมีงบประมาณไม่มากนัก ได้ห้องครัวปิดที่มีเคาน์เตอร์เตรียมอาหารไว้ให้ กั้นด้วยประตูบานเลื่อน แบ่งกับส่วนห้องนอนทำให้กลิ่นทั้งจากห้องครัวและห้องน้ำไม่เข้าไปรบกวนห้องนอนครับ ใช้พื้นที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นร่วมกัน ปลายเตียงมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้

เปิดประตูเข้าห้องมาจะเห็นทางเดินยาวเข้าไป ซ้ายมือเป็นโซนครัวและห้องน้ำอยู่ด้านขวา พร้อมทั้งทำประตูบานเลื่อน 3 ตอนมากั้นห้องให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น  อย่างน้อยเวลาทำอาหารกลิ่นก็จะไม่ไปรบกวนในห้องนอนครับ  ถ้าใครเคยอยู่คอนโดมาจะรู้เลยว่าเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหารยิ่งครัวไทยละก็ ต้องมีฉุนกันบ้างละครับ

ครัว ได้เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการบิวท์อินมาให้ด้วยเลย ขนาดประมาณนี้ก็ถือว่ากะทัดรัดและพอเพียงต่อการใช้งานเลยครับ มีตู้เก็บของถ้วยชาม ชั้นวางเครื่องปรุง ช่องวางไมโครเวฟ เตาเซรามิค 2 หัวเผื่ออุ่นซุปนิดหน่อย พอดีกับการทำครัวของคนอยู่คอนโด และยังประหยัดเวลาที่ต้องทำความสะอาดด้วย

ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำ โครงการติดกระจกกั้นอาบน้ำไว้ให้แล้ว บริเวณอ่างล้างหน้าจะอยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์ และติดกระจกเงาครึ่งตัวไว้ให้แล้วด้วยครับ ติดกระจกกั้นพื้นที่เปียกและแห้งมาเรียบร้อยแล้ว

ได้ฝักบัวแบบ Hand Shower และโครงการติดชั้นวางสบู่มาให้ด้วยเลย ห้องน้ำกับห้องครัวถูกแบ่งด้วยการยกธรณีขึ้นมาจากพื้นประมาณ 10 เซนติเมตร และกั้นส่วน Service นี้ (ครัว,ห้องน้ำ) ด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน

เข้ามาที่ห้องนอน ติดหน้าต่าง ติดระเบียง โครงการให้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต มาตรฐานมาด้วยเลย และเมื่อวางเป็นตัวอย่างไว้ให้ดูก็เห็นว่ายังเหลือที่วางให้บิวท์อิน Day Bed ได้ด้วย ติดกับหัวเตียงวางโซฟาขนาดนั่งสบาย 2 คน หากซื้อเป็น โซฟาเบดก็จะปรับเป็นที่นอนเวลามีเพื่อนมาได้อีกครับ

สำหรับตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีโครงการบิวท์อินไว้ฝั่งหน้าตรงข้ามเตียงเลยครับ แบ่งโซนในตัวเองมีทั้ง มุมวงทีวี ซีดี ถัดมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเล็ก และติดกันคือตู้เสื้อผ้าบิวท์อินยาวสูงพื้นจรดเพดาน หน้าบานเปิด-ปิด Soft Close และด้านหนึ่งเป็นกระจกเงาส่วงได้เต็มตัวเลยครับผู้หญิงทั้งหลาย

มุมติดหน้าต่างโครงการบิวท์อิน Day Bed ไว้เป็นไอเดียน่ารักดีนะครับ ถ้าได้กีต้าร์ซักตัวนั่งเล่นอยู่มุมนี้ได้ทั้งวันเลยครับ หรือจะเปลี่ยนเป็นมุมทำงาน วางโต๊ะเขียนหนังสือตัวยาวซักตัวทำงานนั่งหันหน้าออกไปมองวิว EBD ของกรุงเทพฯ ก็คงจะทำให้งานเสร็จไว้ขึ้นไม่น้อย แต่อาจจะต้องเช็คเรื่องระยะถอยของเก้าอี้นิดนึงด้วยนะครับ

“1 Bedroom 25 SQ.M.”

ต่อกันที่แบบ 1 ห้องนอน จะมีให้เลือก 2 แบบด้วยกันแต่ขนาด 25 ตร.ม. เท่ากันนะครับ การจัดวาง Layout การใช้ประโยชน์ในห้องต่างกัน ซึ่งห้องตัวอย่างที่เราถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆ เป็นแบบที่มีการจัดวางฟังก์ชั่นแบบมาตรฐานที่นิยมทำกันมักเห็นได้ในหลายโครงการ ที่เป็นห้องขนาดนี้ ซึ่งใช้งานได้ดีครับ  เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้เลย แถมมีโต๊ะทำงานด้านข้างได้ด้วย โซนห้องนอนมีประตูบานเลื่อนกั้นแยกไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน ส่วนห้องน้ำและห้องครัวจะอยู่ อีกปีกหนึ่งของห้องได้เป็นครัวปิดอยู่ติดกับระเบียง

เปิดห้องตัวอย่างมาจะเจอพื้นที่ ส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น มองถัดเข้าไปเป็นห้องนอน ซึ่งติดกับช่องแสงเป็นหน้าต่างที่ทำให้ห้องดูโปร่งและกว้างขึ้น

มองซ้ายเป็นชุดบิวท์อินเหมือนห้อง type ที่แล้ว โครงการให้มาด้วยเลยบิ้วท์อินตู้สูงหน้าประตูห้องจรดพื้นถึงเพดาน

ฝั่งตรงข้ามโต๊ะรับประทานอาหาร เป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำและห้องครัวที่เชื่อมไประเบียง

Detailed เล็กๆน้อยๆที่ตัว Developer บิวท์อินมาให้ในยูนิต แสดงถึงความใส่ใจที่คิดถึงการอยู่จริงๆของลูกค้า มุมโต๊ะเครื่องแป้งที่ติดกระจกบานใหญ่เต็มบาน มีลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์น้ำหอม โลชั่น และเครื่องสำองค์สำหรับคุณผู้หญิง ซึ่งมุมนี้จะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี เป็นการคิดการใช้ของพื้นที่ที่ต่อเนื่องกัน เพื่อวางการใช้งานพื้นที่ภายในห้องอย่างลงตัว

ห้องน้ำเหมือนกันกับห้อง Type ที่แล้ว ได้ฝักบัวแบบ Hand Shower กั้นส่วนเปียกแห้งด้วยกระจกนิรภัยและยกธรณีประตูขึ้นประมาณ 10 เซนติเมตร พื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 0.6*1.0 เมตร และห้องน้ำถูกแบ่งจากพื้นห้องด้วยการยกธรณีขึ้นมาประมาณ 10 เซนติเมตรเช่นกัน

ครัว.. สำหรับเคาน์เตอร์ครัวตรงนี้ โครงการบิวท์อินมาให้ด้วยเลยลักษณะ และดีไซน์ ขนาด เหมือน type ที่ผ่านมา ขนาดกะทัดรัดและพอเพียงต่อการใช้งานเลยครับ มีตู้เก็บของถ้วยชาม ชั้นวางเครื่องปรุง ช่องวางไมโครเวฟ เตาเซรามิค 2 หัว รวมทั้งโครงการจะเว้นช่องวางตู้เย็นไว้ให้เลยครับ

เข้ามาที่ห้องนอน ใหญ่กว่าห้องที่แล้ว และมีด้านหนึ่งที่ติดช่องแสง ถ้าเพื่อนๆได้ไปชมห้องตัวอย่างจริงๆ จะรู้สึกได้เลยว่าห้องเหมือนจะมีขนาดใหญ่กว่า ห้อง 22 มาก ทั้งๆที่ขนาดต่างกันเพียง 3 ตร.ม. เท่านั้นโครงการให้เตียงขนาด 5 ฟุตมาด้วยเลย และบิ้วท์อินตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ จรดพื้นถึงเพดานมาให้ด้วยเช่นกัน

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ไม่มากนัก ถ้าใครที่ติดดูทีวีก่อนนอน แนะนำเป็นรุ่นติดผนังดีกว่าครับ โครงการเองก็เตรียมช่องปลั้๊กและสายสัญญาณไว้ให้แล้วเช่นกัน

อย่างที่บอกเพื่อนๆไปครับ Detailed เล็กๆน้อยๆที่ตัว Developer บิวท์อินมาให้ในยูนิต แสดงถึงความใส่ใจที่คิดถึงการอยู่จริงๆของลูกค้า ข้อดีของการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อินคือการใส่ฟังก์ชันของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นเข้าไปให้มากที่สุด ซึ่งออริจิ้นทำการบ้านมาดีมากในเรื่องนี้ ตู้เสื้อผ้าที่คิดดีเทลการใช้มาแทบทุกจุด ข้างหนึ่งของตู้เป็นลิ้นชักใส่ผ้าเช็ดหน้า ถุงเท้า หรืออาจจะของมีค่าต่างๆสำหรับคุณผู้หญิง และมีชั้นที่เว้นช่องไว้สำหรับเสียบปลั๊กไม่ว่าจะไดร์ผม หนีบผม ม้วนผมก็เอาให้ครบได้ทุกทรงเลยครับ ยังไม่หมดนะครับ เปิดประตูตู้เสื้อผ้าเข้าไป ด้านในชั้นบนสุด เป็นช่องใหญ่สำหรับเก็บผ้าห่มผ้านวม หรือกระเป๋าเดินทาง ถัดลงมาเป็นราวแขวนเสื้อผ้าที่แบ่งแขวนสำหรับเสื้อ กางเกงที่เป็นตัวสั้น และมีช่องให้ทิ้งชายกระโปรงเดรสยาวอีกข้างหนึ่งด้วย ที่ถูกใจผมมากทีเดียวคือช่องตาราง 6 ช่องที่เอาไว้แยกเก็บของได้อีก ถ้าคุณเคยหยิบเข็มขัดหรือเนกไทที่กองๆรวมกันไว้แบบรีบๆในตอนเช้า คุณจะเข้าผมดีทีเดียวว่าทำไมถึงถูกใจช่องๆพวกนี้นัก

และไม่ต้องน้อยใจไปนะครับ ตู้เสื้อผ้าแบบนี้ได้ทุกยูนิต ทุก Type ของโครงการครับ ไม่ใช่แค่ห้อง 1 Bedroom Plus  ผมแอบไปเปิดดูมาแล้วทุกห้องทุกแบบในห้องตัวอย่าง ถ้าเพื่อนๆมีเวลาอยากให้ไปดูห้องตัวอย่างจริงกันที่โครงการเลย และสำหรับเพื่อนๆนักลงทุนเชียร์ให้เซอร์เวย์พื้นที่รอบๆต่อไปด้วยเลย เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาอยู่ตลอดเวลาเพื่ออุดรูของการลงทุนนะครับ ยิ่งทำเลใหม่ๆแบบนี้เตรียมตัวรอโครงการต่อไปขึ้นได้เลยครับ อีกอย่างไม่ใช่แค่ห้องตัวอย่างที่สวย พี่ๆเซลล์ทีมที่โครงการก็สวยเหมือนกัน ให้ข้อมูลละเอียดดีครับ (ยิ้ม)

สุดท้ายขอจบรีวิวนี้ไปด้วยภาพห้องตัวอย่าง Type 1 Bedroom Plus 30.0 ตร.ม ที่เราเก็บมาฝากเพื่อนกัน สำหรับ Type นี้ การแบ่งพื้นที่ใช้สอยในห้อง แบ่งเป็น 2 โซน เปิดประตูเข้าจะเจอพื้นที่ห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร Pantry ครัว และห้องน้ำอยู่ในบริเวณเดียวกัน ถัดเข้าด้านในแบ่งห้องกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน จะมี 2 ห้อง คือ ห้องนอนใหญ่ และห้องอเนกประสงค์ ซึ่งห้องอเนกประสงค์นี้สามารถทำเป็นห้องทำงาน หรือ Walk-In Closet หรือห้องนอนเล็กอีกห้องได้แล้วแต่ความต้องการเลยครับ

สำหรับผู้ที่สนใจและกำลังมองหาคอนโดทำเลดี ใจกลางย่านมีนบุรี – รามคำแหง คุณภาพดีประโยชน์ใช้สอยอัดแน่นทุกตารางเมตร โครงการ The Origin RAM 209 Interchange เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดในย่านส่วนต่อขยาย เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์แบบเมืองๆ แต่ก็ยังคงความเงียบสงบของการอยู่อาศัย  หรือเพื่อนๆนักลงทุนที่ต้องการมองหาโครงการที่ปล่อยเช่า กินกำไรทั้งระยะสั้นและระยะยาว ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามครับ เข้ามาชมห้องตัวอย่างจริงกันได้ ราคาเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาทเท่านั้นครับ

29 มิ.ย. นี้ เปิดจองครั้งแรก! กับราคาดีที่สุดในกรุงเทพฯ
เพียง 1.29 ล้านบาท
.
คลิก https://bit.ly/2YWoY6r ลงทะเบียนรับสิทธิ์  พร้อมสิทธิ์เข้ารับ PRIVILEGE CARD ที่โครงการ  เพื่อใช้เป็น ส่วนลด 200,000 บ. ในการเข้าจอง ในวันงาน!
.
#TheOrigin#LiveYourValue#EmpathyDesignThinking#จัดจ้านย่านอินเตอร์เชนจ์#คอนโดใหม่ของคนมีนบุรี