เซ็นทรัลพัฒนาฯปรับแผนรับมือไวรัสโคโรน่า โควิด-19 ช่วยเหลือผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบ ทำความสะอาดพื้นที่ถูกต้องตามหลักสาธารณสุข-ปรับเวลาเปิด-ปิด แบ่งเบาภาระค่าเช่าของร้านค้า เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ มีผลตั้งแต่ 21 มี.ค.63 ทั้งจัดประกันสุขภาพพนักงานในองค์กร-ร่วมมือทุกภาคส่วนสร้างความมั่นใจลูกค้า-คู่ค้าฝ่าวิกฤต
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความห่วงใยลูกค้าและผู้ใช้บริการเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ โดยทางบริษัทฯได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีมาตรการต่างๆ เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เพื่อป้องกันดูแลความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ พนักงานคู่ค้า และพนักงานของบริษัทฯ รวมทั้งได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือร้านค้าผู้เช่าในศูนย์การค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางด้านการทำธุรกิจในช่วงเวลานี้ ดังต่อไปนี้

1.ห่วงใยเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันภายในศูนย์การค้าให้รัดกุมสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่องตามสถานการณ์ที่ยกระดับขึ้น บริษัทฯ ยังคงเน้นในเรื่องสุขลักษณะของสถานที่และการปฏิบัติของพนักงานที่ให้บริการอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับร้านค้าภายในศูนย์การค้าในการดูแลและคัดกรองพนักงานที่ทำงานในร้านค้า และศูนย์การค้า การทำความสะอาดจุดสัมผัสอย่างสม่ำเสมอ และการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั่วทั้งสถานที่หลังเวลาดำเนินการเป็นประจำ รวมทั้งการกำหนดระยะห่าง (Social Distancing) ในศูนย์การค้า


2.ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าเช่าของร้านค้า เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้

เพื่อเป็นส่วนช่วยในการจำกัดเวลาการทำกิจกรรมต่างๆ ของคนจำนวนมาก และลดภาระให้กับร้านค้าในช่วงที่ได้รับผลกระทบ บริษัทฯ ได้พิจารณาปรับลดเวลาทำการของศูนย์การค้าฯให้สั้นลง โดยยังสามารถให้บริการกับลูกค้าทั่วไปได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอตามเวลาที่ต้องการใช้บริการในช่วงปกติ ทางศูนย์การค้าจึงขอความร่วมมือปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

สำหรับ “เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์” เปิดให้บริการตามเวลาปกติของแต่ละสาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการซื้อสินค้าที่จำเป็น

     –การให้การช่วยเหลือร้านค้าภายในศูนย์การค้าด้วยการให้ส่วนลดค่าเช่าของแต่ละร้านค้าตามความรุนแรงที่ได้รับผลกระทบในแต่ละศูนย์การค้าและในแต่ละช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ตั้งแต่      10-50% โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีร้านค้าทั้งรายใหญ่และรายเล็กเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ ที่จะต้องให้การดูแลอย่างทั่วถึง

3.ดูแลเอาใจใส่พนักงานของบริษัทฯอย่างเต็มที่ และหาแนวทางรักษาการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ในด้านความปลอดภัยของพนักงาน และการดำเนินงานของบริษัทฯ บริษัทฯ มีมาตรการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน การประชุมกับบุคคลทั้งภายใน และภายนอก การเดินทาง รวมถึงการลดความหนาแน่นในสถานที่ทำงาน โดยการทำงานที่บ้านและการทำงานแยกสถานที่ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและความต่อเนื่องของการดำเนินงาน และยังได้จัดทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมให้กับพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมและทันท่วงที ทั้งนี้ ผู้บริหารและพนักงานทุกคน ยังได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในทุกระดับขององค์กรเพื่อให้บริการที่ดีและปลอดภัยกับคู่ค้า ประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพื่อลดค่าใช้จ่ายทุกด้านในทุกระดับขององค์กร พร้อมกับหาแนวทางบริหารจัดการให้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานให้น้อยที่สุด เพื่อรักษาผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น และดูแลพนักงานทุกคนอย่างดีที่สุดในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป

4.ดูแลทุกภาคส่วนเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศ บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ อย่างใกล้ชิดในการดำเนินการต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าประชาชนทั่วไป และคู่ค้าของบริษัทฯ ให้สามารถมาใช้บริการและมีการดำเนินการธุรกิจในศูนย์การค้าฯ ให้เป็นปกติได้ รวมถึงปรับพื้นที่ศูนย์การค้าให้เป็นช่องทางช่วยเหลือเกษตรกร และกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบที่ได้รับความเดือดร้อนให้สามารถนำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายในช่วงวิกฤตนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย

“บริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้า ร้านค้าผู้เช่า คู่ค้า ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่มีความเข้าใจและได้ให้การสนับสนุนการดำเนินการของบริษัทฯ เป็นอย่างดีเพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยกันอย่างดีที่สุด” นายปรีชา กล่าวในที่สุด

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*