เอพี ไทยแลนด์ฯ เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 64 รายได้รวมปรับตัวสูงขึ้นถึง 20,506 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิมากถึง 2,518 ล้านบาท ชี้ฐานะการเงินแกร่งพร้อมเดินหน้าไปต่อ ด้วย D/E ที่ต่ำเพียง 0.61 วงเงินสดพร้อมใช้กว่า 14,000 ล้านบาท คงเหลืองบซื้อที่ดินเกือบ 7,000 ล้านบาท ครึ่งปีหลังมั่นใจรายได้รวม โตตามเป้า 43,100 ล้านบาท ด้วยแบ็คล็อกกว่า 33,729 ล้านบาท พร้อมมูฟออนเตรียมลุยเซกเมนต์ใหม่เพิ่มในตลาดระดับ Super Luxury และแมสคอนโดฯ
นายวิทการ จันทวิมล
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด(มหาชน)หรือ AP เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะผันผวนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น แต่บริษัทฯ ก็ยังคงดำเนินธุรกิจและสร้างผลงานได้เกินเป้าหมายที่คาดไว้ โดยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 ด้านรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ นับเป็น NEW RECORDครั้งใหม่ โดยบริษัทฯ สามารถทำรายได้รวมที่สูงถึง 20,506 ล้านบาท (ลบ.) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านๆ มา

ด้านกำไรสุทธิมากกว่า 2,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 1,832 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 0.61 เท่า ซึ่งทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการภายในองค์กร ควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้า และการบริหารกระแสเงินสดที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการสรรหาที่ดินในทำเลใหม่ๆ เพื่อทดแทนโครงการแนวราบที่จะทยอยปิดตัวลงในปีนี้ เนื่องจากจบการขาย โดยทั้งปีบริษัทฯ ได้จัดเตรียมงบประมาณในการซื้อที่ดินไว้รวมทั้งสิ้น 12,000 ล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกใช้ไปแล้วประมาณ 5,200 ล้านบาท และคงเหลืออีกจำนวน 6,800 ล้านบาท ซึ่งจะใช้จัดสรรซื้อที่ดินสำหรับรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในอนาคต ภายใต้การบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงิน โดยปัจจุบัน มีวงเงินสดพร้อมใช้มากกว่า 14,000 ล้านบาท และการประเมินสถานการณ์รายวันอย่างระมัดระวังสูงสุด

“แผนการดำเนินธุรกิจของเอพี ไทยแลนด์ ยังคงก้าวเดินอย่างต่อเนื่อง ด้วยทีมงานภายในที่แข็งแกร่ง กลยุทธ์การกระจายสินค้าที่ครอบคลุมกว่า 100 ทำเลทั่วประเทศไทย และที่สำคัญการบริหารจัดการกระแสเงินสด โดยบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 33,729 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้เรายังพร้อมเดินหน้าตามแผนขยายการพัฒนาธุรกิจที่อยู่อาศัยไปยังเซกเมนต์ใหม่ ด้วยการเตรียมเปิดตัวบ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์-พระราม 3 บ้านเดี่ยวหรู หนึ่งเดียวบนทำเลใจกลางเมือง เริ่ม 35-60 ล้านบาท ซึ่งพร้อมจัดงาน Pre-Sale ในเดือนกันยายนนี้ และการปรับโฉมแบรนด์ ASPIRE (แอสปาย) เพื่อขยายฐานคอนโดฯ ในตลาด mass product มากยิ่งขึ้น ซึ่งพร้อมเปิดตัว ASPIRE รัตนาธิเบศร์-เวสต์ตัน ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท ในเดือนกันยายนนี้” นายวิทการ กล่าว

สำหรับแผนครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมรุกเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 26 โครงการ มูลค่ารวม 33,440 ล้านบาท  เป็นโครงการแนวราบจำนวน 22 โครงการ มูลค่าประมาณ 20,440 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท และแผนการโอนกรรมสิทธิ์ 2 คอนโดฯใหม่ “LIFE ลาดพร้าว แวลลีย์” และ  LIFE อโศก ไฮป์” มูลค่าโครงการรวม 12,300 ล้านบาท ซึ่ง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายรวม (Net Pre-Sale)  ได้มากถึง 20,662 ล้านบาท คิดเป็น 58% จากเป้ายอดขายที่ 35,500 ล้านบาท

“บริษัทฯ ยังคงดำเนินแผนธุรกิจด้วยความรัดกุม ควบคู่ไปกับความพร้อมที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็ว ด้วย การบริหารจัดการกระแสเงินสด ภายใต้พันธกิจใหญ่ขององค์กร “EMPOWER LIVING” ที่พร้อมส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย” นายวิทการ กล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*