“ไฟว์เวล” เดินหน้าเปิดหลักสูตรใหม่ ALPHA WEALTH ปูทางนักลงทุนไทยเข้าสู่เทรนด์การลงทุนยุคดิจิทัล

ไฟว์เวลฯ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการจัดหลักสูตรสำหรับผู้บริหารระดับสูง และพัฒนาศักยภาพบุคลากรขององค์กรต่าง ๆ เปิดหลักสูตร “ALPHA WEALTH” (อัลฟ่า เวลท์) หลักสูตรให้ความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ยุคดิจิทัล เพื่อปูทางให้นักลงทุนไทย เตรียมพร้อมเข้าสู่โลกการลงทุนวิถีใหม่ในยุคดิจิทัล พร้อมเสริมทัพความเข้มข้นของหลักสูตร ดึงซีอีโอชั้นนำแต่ละวงการของเมืองไทย มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เกี่ยวกับเทรนด์การลงทุนแห่งอนาคต เปิดประตูแห่งโอกาสการลงทุนถึง Silicon Wadi ประเทศอิสราเอล ศูนย์กลางเทคโนโลยีขั้นสูงอันดับ 3 ของโลก

ดร.ศุภชัย สุขะนินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟว์เวล จำกัด เปิดเผยว่า วิกฤติโควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงเติบโตอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป รวมถึงเทรนด์การลงทุนจากเดิมที่มักลงทุนในหุ้น ทองคำ หรือการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ซึ่งในปัจจุบันไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เหมือนในอดีต ในช่วงที่ผ่านมาเกิดนักลงทุนรุ่นใหม่ซึ่งอยู่ในเจเนอเรชั่นอัลฟ่า (Gen Alpha) ซึ่งเป็นเจนฯ ที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีสูง และสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ  กลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่นี้จะนิยมลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ประกอบกับเทคโนโลยีทางการเงิน (Fin Tech) และ เทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Tech) มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและการดำเนินธุรกิจต่างๆ ไปทั่วโลก จึงเดินหน้าเปิดหลักสูตร “ALPHA WEALTH” (อัลฟ่า เวลท์) หลักสูตรให้ความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงยุคดิจิทัล เพื่อปูทางให้นักลงทุนไทยเตรียมพร้อมเข้าสู่เทรนด์การลงทุนแห่งอนาคต อาทิ Metaverse, Deep Technology, Cryptocurrency และ NFT ฯลฯ

ทั้งนี้การเปิดหลักสูตร ALPHA WEALTH นอกจากต้องการเตรียมความพร้อมให้นักลงทุนไทยแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการจัดหลักสูตรสำหรับผู้บริหารระดับสูง และพัฒนาศักยภาพบุคลากรขององค์กรต่าง ๆ เนื่องจากหลักสูตร ALPHA WEALTH ไม่ได้เน้นเฉพาะทฤษฎี แต่ยังเชิญซีอีโอจากบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จริง ทั้งเรื่องของ Metaverse นวัตกรรมที่มีผลต่อไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน, Deep Technology, Cryptocurrency, NFT อาทิ การซื้อขายภาพใน NFT สามารถทำเงินได้เป็นหลักแสน หลักล้าน รวมถึง Robot Trade หรือ การนำระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยบริหารพอร์ตฯ เพราะอย่าลืมว่าการลงทุนในตลาดหุ้นยังมีช่วงเวลาเปิด-ปิด แต่โลกของคริปโตฯ ที่ทุกอย่างอยู่บน Blockchain ทุกอย่างอยู่บนโลกออนไลน์เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ดังนั้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจึงมีส่วนสำคัญ นอกจากนี้ยังมีการให้ความรู้ไปถึงเรื่องการจัดการทางบัญชี-ภาษี, Property Technology รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นหลักสูตรเดียวในไทยที่สามารถเชิญซีอีโอจากแทบทุกวงการมารวมอยู่บนเวทีเดียวกัน และทำให้ผู้เรียนได้ความรู้ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตำรา แต่เป็นความรู้ที่เกิดจากการตกผลึกจากประสบการณ์จริง

ด้าน นางสาวพิชัญญา กัญจนาภรณ์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท ไฟว์เวล จำกัด  กล่าวว่า หลังจากจบภาคทฤษฎีแล้วยังเปิดโลกการลงทุนด้วยการจัด Business Trip พาไปดูงานที่ประเทศอิสราเอล เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อศึกษาเทรนด์การลงทุนจากสตาร์ทอัพด้วยตัวเอง และอาจต่อยอดไปสู่ Business Matching ได้ โดยจะพาไปดูงานที่ Silicon Wadi ย่านสำคัญทางเศรษฐกิจของอิสราเอล ที่ได้รับการขนานว่าเสมือน Silicon Valley ของสหรัฐอเมริกา เพราะเป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสูง โดยมีสัดส่วนการลงทุนด้านวิจัยวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมอยู่ร้อยละ 4.3 ของ GDP ทั้งประเทศและจำนวน startup ถึง 8,200 ราย เปรียบเทียบกับประชากร 9 ล้านคนถือเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตามทริปนี้ทางหลักสูตรได้รับเกียรติจาก นายดะกัน อโลนี (Mr.Dagan Alony) ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ร่วมเดินทางด้วย โดยพาไปดูนวัตกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจและสามารถนำมาต่อยอดในธุรกิจ หรือการลงทุนได้ อาทิ Metaverse, Blockchain, Health technology เป็นต้น สำหรับมาตรการการป้องกันโควิด-19 ทางหลักสูตรได้จัดพื้นที่สำหรับตรวจคัดกรอง หรือ Antigen Test ทุกครั้งก่อนเข้างาน และมีการจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง อีกทั้งผู้เรียนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา