ซีบีอาร์อีเผยหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19เริ่มคลี่คลาย บริษัทเอกชนหลายแห่งในไทยเริ่มกลับมาทำงานในออฟฟิศ พร้อมปรับพื้นที่ในมีขนาดที่เหมาะสม ขณะที่บริษัทส่วนใหญ่ในเอเชียแปซิฟิกใช้การทำงานแบบไฮบริด โดยเฉพาะการทำงานในออฟฟิศควบคู่ไปกับการทำงานนอกออฟฟิศ

นางสาวมณีรัตน์ วิจิตรรัตนะ ผู้อำนวยการอาวุโส แผนกพื้นที่สำนักงาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทเอกชนส่วนใหญ่เริ่มประกาศให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในสำนักงานแล้ว  แต่รูปแบบการทำงานในสำนักงานครั้งนี้จะไม่เหมือนกับการทำงานในช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโคควิด-19   โดยหลายสำนักงานได้เปลี่ยนไปสู่การทำงานแบบไฮบริด ตั้งแต่การเปลี่ยนขนาดและฟังก์ชั่นของพื้นที่สำนักงานในสาขาต่าง ๆ ไปจนถึงการนำสิ่งใหม่ ๆ มาใช้ในสำนักงาน เช่น โต๊ะทำงานแบบหมุนเวียน  และเทคโนโลยีต่าง ๆ สำหรับสำนักงานอัจฉริยะ เป็นต้น

“บริษัทเอกชนที่เคยวางแผนจะใช้รูปแบบการทำงานแบบ Work form Home กำลังหันกลับมาทบทวนแนวทางอีกครั้ง เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในสำนักงานสามารถส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างทีมต่าง ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน  รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรมของบริษัทให้แข็งแกร่ง และทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้”

ทั้งนี้การสำรวจความคิดเห็นของบริษัทในเอเชียแปซิฟิกมากกว่า 150 แห่งโดยแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่าเกือบ 60% คาดว่าจะใช้การทำงานแบบไฮบริดในรูปแบบที่แตกต่างกันไป  ตั้งแต่การทำงานในสำนักงานควบคู่ไปกับการทำงานนอกสำนักงานในสัดส่วนที่เท่ากัน 28%  การทำงานส่วนใหญ่ในสำนักงาน 24% ไปจนถึงการทำงานนอกสำนักงานเป็นส่วนใหญ่หรือทำงานนอกสำนักงานทั้งหม 5% ขณะเดียวกันบริษัทที่ร่วมตอบแบบสอบถามเกือบ 40% คาดหวังให้พนักงานทำงานอย่างเต็มรูปแบบในสำนักงาน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 26% ในปี 2564

ดังนั้นในระยะยาวคาดว่าความต้องการพื้นที่สำนักงานจะเพิ่มสูงขึ้น เพราเกือบ50%ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถามตั้งใจจะเพิ่มพื้นที่ในช่วงสามปีข้างหน้า ในขณะบริษัทข้ามชาติ 59% วางแผนที่จะขยายพื้นที่ในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นจาก 33% ในปี 2564

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังเผยให้เห็นว่าการจัดให้มีที่นั่งทำงานประจำลดลงอย่างมาก เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนไปเป็นที่นั่งทำงานแบบยืดหยุ่นและเป็นพื้นที่ทำงานตามรูปแบบการทำงาน (Activity-based Workplace)    ในช่วงก่อนเกิดโรคระบาดมีบริษัท 58% มีที่นั่งทำงานแบบตายตัว แต่หลังเกิดโรคระบาด มีบริษัทเพียง 28% เท่านั้นที่ยังคงใช้การจัดที่นั่งรูปแบบดังกล่าว โดยเฉพาะธุรกิจด้านการเงินมีการยกเลิกการใช้ที่นั่งประจำที่มากที่สุด ขณะที่บริษัทที่ให้บริการเฉพาะด้าน (Professional Service) มีแนวโน้มที่จะคงที่นั่งประจำไว้มากกว่า

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*