บีทีเอสฯร่วมลงนามเซ็นสัญญากับบางกอกแลนด์ฯการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี” 2 สถานี ด้วยเม็ดเงินลงทุน จำนวน 4,000 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2567 เพิ่มความสะดวกผู้ใช้บริการอยู่อาศัยรอบเมืองทองธานี ส่งผลเติบโตขึ้นอีก 10-20% อนาคตเล็งนำแลนด์แบงก์ที่เหลือ 600 ไร่ ผุดโครงการ Mixed Use หวังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
นายคีรี กาญจนพาสน์
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือ BTS เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล สายสีชมพู ช่วงแครายมีนบุรี เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนรองในพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งเหนือ ตลอดจนถึงพื้นที่ส่วนหนึ่งของจ.นนทบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพฯปริมณฑล ดำเนินการโดย บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด โดยได้รับสัญญาสัมปทานในการดำเนินการตั้งแต่การก่อสร้างจนถึงการเปิดให้บริการจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ดำเนินการในรูปแบบรถไฟฟ้ายกระดับแบบรางเดี่ยว มีแนวเส้นทางเริ่มต้นที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม โดยมุ่งหน้าขึ้นไปทางห้าแยกปากเกร็ด แล้วมุ่งไปทางทิศตะวันออกตามแนวถนนแจ้งวัฒนะ และถนนรามอินทรา และสิ้นสุดทั้งเส้นทางที่สถานีมีนบุรี บริเวณแยกรามคำแหงร่มเกล้า ย่านมีนบุรี อันเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานครสายสีส้ม ระยะทางรวมประมาณ 34–36 กิโลเมตร

โดยตัวรถไฟฟ้าเป็นการสร้างในประเทศจีน แต่มีคุณภาพอย่างแน่นอนโดยได้เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมิถุนายน 2561 แต่การก่อสร้างได้ล่าช้ากว่ากำหนดมาประมาณ 1 ปีเศษ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีเศษที่ผ่านมา ส่งผลกระทบด้านการปิดไซต์งาน และเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน แต่เชื่อว่าโครงการจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการไม่เกินไตรมาส1/2566

ช่วงที่การก่อสร้างล่าช้าไป ต้องยอมรับว่ามีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็ยังถือว่าน้อยมาก บริษัทฯยังมีศักยภาพในด้านต้นทุนที่เพียงพอ และในอนาคตคงต้องไปขอความอนุเคราะห์จากรฟม.หรือจากกระทรวงคมนาคม เพื่อให้การช่วยเหลือในลำดับถัดไปนายคีรีกล่าว

นายคีรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR JV consortium) ที่ร่วมทุนกันระหว่าง บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัท ซิโนไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามเซ็นสัญญากับ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด(มหาชน)หรือ BLAND ในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานีด้วยเม็ดเงินลงทุน จำนวน 4,000 ล้านบาท สำหรับส่วนต่อขยายจำนวน 2 สถานี  คือ สถานีอิมแพ็ค เมืองทองธานี (ชาเลนเจอร์อาคาร 1) และ สถานีทะเลสาบ เมืองทองธานี โดยได้เริ่มการก่อสร้างไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 และจะแล้วเสร็จพร้อมสามารถเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2567

นายปีเตอร์ กาญจนพาสน์
นายปีเตอร์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือBLAND กล่าวว่า จากความร่วมมือในโครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี ระหว่าง BLAND และ NBM ผู้เชี่ยวชาญด้านโดยสารรถไฟฟ้าครั้งนี้ ตนรู้สึกยินดีและภูมิใจมากที่บริษัทฯจะสามารถมอบประโยชน์ต่อ สาธารณะโดยช่วยให้ประชาชนทั้งผู้ที่อยู่อาศัยและผู้ที่ทำงานอยู่ในเมืองทองธานีกว่า 300,000 คน รวมทั้งผู้ที่เดินทางเข้ามาร่วมงานแสดงสินค้าและการประชุมที่มีกว่า 10 ล้านคนต่อปี จะได้รับความสะดวกสบายด้วยการได้ใช้บริการรถไฟฟ้าในการเดินทางอย่างต่อเนื่องพร้อมยังช่วยบรรเทาปัญหาจราจรได้อีกทางหนึ่ง  ส่วนในด้านของโอกาสทางธุรกิจนั้นโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ที่เข้ามาในเมืองทองธานีนี้น่าจะช่วยส่งเสริมธรุกิจต่างๆในเมืองทองธานี เช่น ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค, โรงแรม,คอสโมบาซาร์,คอสโมวอล์ค,เอาท์เล็ทสแควร์,บีไฮฟไลฟ์สไตล์มอลล์ และคอสโม ออฟฟิศพาร์ค ให้มีการเติบโตมาก ขึ้นอีก10-20%

นอกจากนี้ยังจะเพิ่มศักยภาพและเพิ่มมูลค่าที่ดินเปล่าในเมืองทองธานีที่มีอยู่อีก 600 ไร่ โดยจะมีมูลค่าเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ปัจจุบันราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 100,000 กว่าบาท/ตารางวา ขณะที่ที่ดินริมถนนแจ้งวัฒนะ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 กว่าบาท/ตารางวา โดยการพัฒนาจะเริ่มจากที่ดินบริเวณรอบทะเลสาบก่อน จำนวนประมาณ 400 ไร่ ซึ่งอาจหาพันธมิตรมาร่วมทุน หรือพัฒนาเองในบางส่วน โดยได้วางแผนไว้ว่าจะพัฒนาให้เป็นโครงการ Mixed Use เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนรุ่นใหม่เป็นอย่างดี

โดยทั้ง 2 สถานีดังกล่าว จะเป็นเส้นทางส่วนต่อขยายเข้ามาในเมืองทองธานี จนถึงทะเลสาบเมืองทองธานี รวมเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ทั้งนี้ บริษัทได้ลงทุนการก่อสร้าง Skywalk ด้วยเม็ดเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อเชื่อมต่อจากโครงการฯ ไปยังศูนย์ แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค, โรงแรม, ร้านค้าปลีก และห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตและมอบความ สะดวกสบายให้แก่ผู้ที่มาใช้บริการอย่างสูงสุด รวมทั้งยังเป็นการต่อยอดและเพิ่มศักยภาพของการเป็นทำเลทองสำหรับโครงการใหม่ต่างๆ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ อาทิ โมริคอนโดมิเนียม โครงการที่พักอาศัยจำนวน 1,040 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 35% และโรงเรียนสอนประกอบ อาหารเลอโนท(LenôtreCulinaryArtsSchool)ที่เป็นโรงเรียนสอนศิลปะการทานอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งที่ได้รับการ ยอมรับทั่วโลก

ถือเป็นครั้งแรกที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง BLAND และะ BTS หากคุณปู่มงคล กาญจนพาสน์ ซึ่งเป็นผู้รวบรวมที่ดินในย่านแจ้งวัฒนะ ประมาณ 4,000 ไร่ และคุณพ่ออนันต์ กาญจนพาสน์ ที่เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาเมืองทองธานี ยังอยู่คงภูมิใจและดีใจกับผมอย่างแน่นอน หากรถไฟฟ้าเปิดให้บริการจะทำให้โครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดขายจะมีดีมานด์เพิ่มมากขึ้นนายปีเตอร์ กล่าว

นายปีเตอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการโมริ คอนโดฯ เป็นโครงการเก่าล็อตสุดท้ายในเมืองทองธานี ซึ่งบริษัทฯนำมาพัฒนาใหม่ โดยเชื่อว่าภาระการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ไม่น่าจะมีผลกระทบกับบริษัทฯ นอกจากนี้จะเร่งนำสต๊อกเก่าที่มีอยู่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ในเมืองทองธานี และที่ดินเปล่าและโครงการทาวน์เฮาส์ที่อยู่ย่านพัฒนาการ ใกล้ห้างซีคอนสแควร์ กลับมาพัฒนาใหม่ในเร็วๆนี้ ส่วนแปลงที่ดินแถวมักกะสัน พื้นที่ประมาณ 10 ไร่ มูลค่าที่เห็นมีการซื้อขายประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ยังไม่มีแผนจะดำเนินการอะไร ซึ่งโดยรวมแล้วยังมีที่ดินสะสมอีกมูลค่าหลายหมื่นล้านอยู่ในมือ ซึ่งคงจะมีการนำมาพัฒนาในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม

นายกวิน กาญจนพาสน์

ด้านนายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการบริหาร บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้ระหว่าง NBM และ BLAND เป็นการลงนามในสัญญา 2 ฉบับ แบ่งเป็น

1.สัญญาให้การสนับสนุนการก่อสร้าง (Construction Support Agreement) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี

2.สัญญาก่อสร้างทางเชื่อม (Skywalk Connection Agreement) จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้า มายังตัวอาคารของเมืองทองธานี

โดยภายใต้สัญญาดังกล่าว ทาง BLAND ได้อนุมัติเงินสมทบและค่าสิทธิให้กับ NBM ประมาณ1,293.75 ล้านบาท (รวมภาษี มูลค่าเพิ่ม) เพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง และพัฒนาส่วนต่อขยายเมืองทองธานี และเพื่อสิทธิของ BLAND หรือบริษัทในเครือของ BLAND ในการก่อสร้างทางเชื่อมสถานี เพื่อเชื่อมต่ออาคารหรือสิ่งก่อสร้างใดๆ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของกลุ่ม BLAND ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเมืองทองธานี เข้ากับสถานีรถไฟฟ้าในส่วนต่อขยายเมืองทองธานี นับแต่วันที่ทำสัญญา จนถึงวันที่สิทธิในการดำเนินงาน ระบบรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเมืองทองธานี ตามสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูระหว่าง NBM และ รฟม.สิ้นสุดลง และยังได้อนุมัติเงินสมทบเพื่อสนับสนุนการบำรุงรักษาจำนวน 10.35 ล้านบาทต่อปี (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) นับจากวันที่ส่วนต่อขยายเมืองทองธานีเปิดให้บริการ

ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการในธุรกิจ MOVE ที่บีทีเอส กรุ๊ปฯ ให้ ความสำคัญ เพราะมุ่งหวังจะเป็นผู้ให้บริการเดินทางแบบdoor-to-door เพื่อตอบโจทย์การเดินทาง ตั้งแต่ก้าวแรกถึงก้าว สุดท้ายให้กับผู้โดยสารอย่างสมบูรณ์ ภายใต้การให้บริการที่สะดวกและปลอดภัย โดยโครงการดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูเส้นทางหลัก ช่วงแครายมีนบุรี ซึ่งสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าได้อีก 4 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้า สายสีม่วง (ช่วงบางใหญ่บางซื่อ), รถไฟชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อรังสิต), รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงหมอชิตสะพานใหม่คูคต) และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยมีนบุรี)

โครงการดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 37 เดือน และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ เปิดให้บริการได้ในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารอยู่ที่ 13,785 คน/เที่ยว/วันหากโครงการดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรใน การเดินทางเข้าพื้นที่เมืองทองธานีได้เป็นอย่างดี เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นชุมชนขนาดใหญ่ และมีผู้เดินทางเข้าออกเป็นจำนวนมาก ส่วนภาพรวมโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแครายมีนบุรี จำนวน 30 สถานี(ไม่รวมสถานีอิมแพ็คเมืองทองธานี และสถานี ทะเลสาบเมืองทองธานี) มีความคืบหน้าโครงการ 89.43% แบ่งเป็นงานโยธา 91.01% และงานระบบรถไฟฟ้า 87.90% ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้บางส่วนช่วงต้นปี 2566

ส่วนทิศทางการดำเนินการธุรกิจของบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด(มหาชน)หรือ U ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบีทีเอส กรุ๊ป นั้น ยังคงมีการร่วมทุนกับพันธมิตรบริษัทอสังหาริมทรัพย์ อย่างบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) หรือ SIRI อย่างต่อเนื่อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*