ซี.พี. แลนด์ฯเผยผลประกอบการธุรกิจที่อยู่อาศัย 9 เดือนปี 65 ขยายตัวตามเป้า กวาดรายได้กว่า 900 ล้านบาท ผลจากการจับมือกับ 10 ธนาคารพันธมิตร สร้างปรากฎการณ์ “ซีพีแลนด์ ใครก็กู้ได้”, การจัดแคมเปญมหกรรมบ้านและคอนโด, งานดนตรีใน “สวนแห่งทัสคานี” Music in “the Garden of Tuscani” เพื่อเปิดตัวบ้านโซนใหม่ทัสคานี มีนบุรี – ประชาร่วมใจ 37  ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่ฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น 
นายดำรงศักดิ์ ถุงเงิน
นายดำรงศักดิ์ ถุงเงิน รองกรรมการผู้จัดการงานบริหารคอนโดฯและสำนักงานให้เช่า บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPLAND เปิดเผยผลประกอบการธุรกิจที่อยู่อาศัย 9 เดือนของปี 2565 พบว่า ผลประกอบการธุรกิจที่อยู่อาศัย สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่วางไว้  โดยสามารถสร้างรายได้ที่กว่า 900 ล้านบาท จากปัจจัยการรรุกยกระดับมาตรฐานคุณภาพอย่างจริงจัง รวมถึงมาตรการส่งเสริมการตลาดของ CP LAND การจับมือกับ 10 ธนาคารพันธมิตร สร้างปรากฎการณ์ “ซีพีแลนด์ ใครก็กู้ได้” ซึ่งช่วยให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจจะกู้ซื้อบ้านและคอนโดฯ สามารถดำเนินการธุรกรรมกับธนาคารพันธมิตรได้สะดวกมากยิ่งขึ้น  แคมเปญเดียวสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเริ่มแคมเปญ โดยปัจจุบันสามารถขยายความร่วมมือมากถึง 12 ธนาคารพันธมิตร ประกอบด้วย  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)หรือ BAY, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ  BBL, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ GH Bank ,ธนาคารออมสิน หรือ GSB ,ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ IBank , ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KBANK , ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด(มหาชน) หรือ KKP, ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTB , ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)หรือ SCB ,ธนาคารทหารไทยธนชาติ จำกัด(มหาชน)หรือ TTB  ,ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด(มหาชน) หรือ CIMB และ ธนาคารยูโอบี จำกัด(มหาชน)หรือ UOB

รวมถึงแคมเปญ“มหกรรมบ้านและคอนโด” ที่นำโครงการบนทำเลศักยภาพกว่า 25 โครงการทั่วประเทศของ CPLAND ลุ้นรับคอนโดฯตากอากาศ โครงการบ้านเขาใหญ่ และรางวัลอื่นๆมูลค่ารวมกว่า 2.7 ล้านบาทถึงสิ้นปีนี้ เพียงซื้อบ้าน หรือ คอนโดจาก CP LAND และการจัดงานดนตรีใน “สวนแห่งทัสคานี” Music in “the Garden of Tuscani” เพื่อเปิดตัวบ้านโซนใหม่ทัสคานี มีนบุรี – ประชาร่วมใจ 37 ซึ่งช่วยโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น ทำให้สามารถปิดยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้  ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่กลับมาฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น จากการคลายความกังวลที่มีต่อสถานการณ์โรคระบาดโควิด – 19 ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว รายได้และกำลังซื้อเริ่มกลับคืนมา รวมถึงผู้กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเริ่มเร่งตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย หลังจากต้นทุนวัสดุก่อสร้างขยับตัวขึ้น ราคาที่อยู่อาศัยเตรียมขยับตัวขึ้นตาม

 

“จากข้อมูลพบว่า ลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของ CPLAND ส่วนใหญ่กว่า 70% เป็นผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) และอีก 30% เป็นนักลงทุนสำหรับการปล่อยเช่า โดยโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดีส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ตามภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) และภาคเหนือ ได้แก่ กัลปพฤกษ์ มหาสารคาม ,พาร์ค คอนโด ดรีม นครราชสีมา, อุดรธานี และแม่สอด จ.ตาก โดยมีปัจจัยมาจากการตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม มีความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป และการออกแคมเปญต่างๆมาสนับสนุน ซึ่งเชื่อว่าอีก 3 เดือนที่เหลือจะสามารถทำรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สอดรับเป้าหมายใหญ่ของ CPLAND ในปีนี้ที่ทุกธุรกิจจะสร้างรายได้รวม 1700 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับปี 2564” นายดำรงศักดิ์ กล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*