เสนาฯผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น “ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป” นำเทคโนโลยี Zero Energy House (ZEH) ปรับใช้ในโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ภายใต้ “SENA HHP Zero Energy House” ภายใต้แนวคิด Geo Fit+ หวังลดการใช้พลังงานได้ไม่ต่ำกว่า 20%นำร่องไตรมาส 1/66 โครงการบ้านทุกหลัง และคอนโดฯแบรนด์ “นิช โมโน”ย่านบางซื่อระบุมาตรการภาครัฐญี่ปุ่นเข้ม หากไม่ดำเนินการตามโมเดลจะถูกปรับเป็นเงิน หรือไม่ออกใบอนุญาต แต่สร้างบ้านมีต้นทุนที่สูงขึ้น รัฐบาลจะช่วยสนับสนุน พร้อมส่งเสริมภาคธุรกิจ
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA  และในฐานะผู้ประกอบการรายแรกที่พัฒนาหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทาง “SENA Group” ให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก (CLIMATE CHANGE) มาอย่างต่อเนื่อง มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนบนโลกในเวลานี้  ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ภาวะโลกร้อน” ที่เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติกลายเป็นปัญหาเรื้อรังและมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นในระยะยาว จากปัญหาที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการเข้ามามีบทบาทในการทำให้ทุกภาคธุรกิจต้องหันมาใส่ใจ เริ่มปรับตัวและวิธีคิดในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความสมดุลทั้งเศรษฐกิจ (Economy) สังคม (Sociality) และ สิ่งแวดล้อม (Environmental) ให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยทาง“SENA Group”  มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่คิดละเอียดใส่ใจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยแบบครบวงจรมากยิ่งขึ้นบนพื้นฐานของความยั่งยืน พร้อมต่อยอดธุรกิจใหม่ตอบรับกับเมกะเทรนด์ (Mega Trend) ของโลกยุคปัจจุบันและการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตในทุกมิติเพื่ออนาคต  ซึ่งความยั่งยืนเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน เสนาฯ เดินตามวิชั่นที่วางไว้ แม้จะมีธุรกิจต่างๆที่มากขึ้น ตั้งแต่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย  แต่ก็ต้องพัฒนาสินค้าในตระกูลที่เกี่ยวกับความยั่งยืนด้วย และแม้จะเป็นภาคเอกชน ไม่ใช่รัฐ  แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ประเทศไทยไปสู่เป้าหมายในปี 2050 (พ.ศ.2593) เราพยายามทำบ้าน Net Zero Housing ตรงนี้เป็นโจทย์ที่ยาก โดยที่ไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐ” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว

ล่าสุดได้ร่วมกับ บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป  จำกัด หรือ HHP บริษัทร่วมทุนจากประเทศญี่ปุ่น นำเทคโนโลยี Zero Energy House (ZEH) บ้านและคอนโดมิเนียมที่ลดการใช้พลังงานในครัวเรือนใกล้ศูนย์ หรือต่ำกว่าศูนย์ มาปรับใช้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ภายใต้ “SENA HHP Zero Energy House” โดยนำแนวคิด Geo Fit+ นวัตกรรมการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในที่เน้นความสะดวกสบาย และประโยชน์ใช้สอยสูงสุดที่มีความปลอดภัยใส่ใจสิ่งแวดล้อม มาประยุกต์ใช้ควบคู่ไปด้วย โดยวางเป้าหมายลดการใช้พลังงานได้ไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการจำลองแบบบ้านและห้องชุดในคอนโดมิเนียม ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อคำนวณให้ได้ฐานการใช้พลังงาน โดยผ่านแบบบ้านในหลายโซลูชั่น หลังจากนั้นจะนำมาเป็นตัวตั้งต้นในการออกแบบบ้านทุกหลังในทุกโครงการที่จะเปิดขายตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2566 เป็นต้นไป รวมถึงคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในอนาคต โดยจะนำร่องจากแบรนด์ “นิช โมโน”ทำเลบางซื่อ ก่อนเป็นโครงการแรก

“เสนาฯ ได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการนำบ้านแต่ละแบบของเสนาฯไปศึกษาตามแบบสมมติฐาน เกี่ยวกับโอกาสและเรื่องการใช้พลังงาน ซึ่งทางเสนาฯจะนำโมเดลแบบบ้านที่ผ่านการศึกษา การใช้ไฟที่ต่างกันในแต่ช่วงเวลา มาเป็นตัวตั้งต้นในการพัฒนาบ้านขายให้กับลูกค้า ซึ่งจะดำเนินการในทุกแบบบ้าน ตั้งแต่ทาวน์เฮาส์ไปจนถึงบ้านหลังใหญ่ ซึ่งมีเป้าหมาย ต่อให้ลดการใช้พลังงานไม่ถึง 20 % ก็ต้องดำเนินการ ซึ่งไม่ควรรอ เพราะมีจุดมุ่งหมายที่ปี  2050 โดยควรทำ เป็นจุดยืนในด้านของผู้ประกอบการ ที่คิดว่าดำเนินการได้ ก็ต้องการทำ Zero Energy Housing แม้จะไม่ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐในเรื่องส่งเสริมการสร้างบ้านที่มีการใช้พลังงานในชีวิตประจำวัน (คาร์บอนเครดิต) ก็ทำบ้าน Zero Energy Housing เพื่อไปสู่จุดมุ่งหมาย  Net Zero Housing แต่ก็มีประเด็นที่เป็นโจทย์ยาก คือ เรื่องราคาบ้าน เนื่องจากโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นที่ HHP พัฒนาให้เป็น Zero Energy Housing อยู่นั้น มีราคาปรับสูงขึ้นจากปกติถึง 30-50% หากนำเข้ามาประยุกต์ใช้กับโครงการของเสนาฯ และต้องมีการปรับราคาในราคาที่สูงแบบนั้น ก็คงไม่สามารถขายสินค้าได้แน่ เหมือนตอนทำ บ้านเสนาโซล่าร์ครั้งแรก ถ้าไม่คิดอะไรเลย ราคาบ้านตอนนั้นก็แพงขึ้นประมาณ 10-15%  ทำให้ต้องหาพันธมิตรจากสถาบันการเงิน เข้ามาเป็นตัวช่วยกับการติดตั้งโซล่าร์เซลล์ในบ้านของเสนาฯ ผ่านเงื่อนไขการสนับสนุนอัตราดอกเบี้ย”ผศ.ดร.เกษรา กล่าว

นายโทดะ มาซาฮิโกะ
ด้านนายโทดะ มาซาฮิโกะ ผู้อำนวยการฝ่ายบ้านจัดสรรต่างประเทศ บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป  จำกัด กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นได้มีการพัฒนา เรียกว่า  Zero Energy House (ZEH) โดยวางมาตรฐานเกณฑ์การลดใช้พลังงาน โดยภายในปี 2030 (พ.ศ.2573) การก่อสร้างอาคารใหม่ บ้านและคอนโดมิเนียม ต้องติดตั้งพลังงานสะอาด หรือ โซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้น 60% ทั้งนี้ หากธุรกิจไม่สร้างบ้านที่มีการใช้พลังงานในชีวิตประจำวันในรอบ 1 ปี ได้ ใกล้ หรือ เท่ากับ 0  จะถูกปรับเป็นเงิน หรือไม่ออกใบอนุญาตให้ หากมีการสร้างบ้านมีต้นทุนที่สูงขึ้น รัฐบาลจะเข้ามาช่วยสนับสนุน พร้อมส่งเสริมภาคธุรกิจด้วย  เช่น การจ่ายเงินสนับสนุน ZEH ให้กับผู้สร้างบ้านเดี่ยว จำนวน 550,000 เยน หากเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ จะได้รับ 400,000 เยน/อาคาร ส่วนคอนโดฯแนวสูง จะได้รับเงินช่วยเหลือ 1 ใน 3 หรือ 1ใน 2 ของค่าใช้จ่าย ที่ใช้ในการสร้างระบบให้เข้าเกณฑ์ดังกล่าว และผู้ซื้อบ้านที่ผ่านเกณฑ์ ZEH จะได้รับผลประโยชน์อื่นๆด้วย อาทิ ได้โอกาสที่ดีในการขอกู้ซื้อบ้าน ซึ่งการสร้างบ้านแบบดังกล่าวจะมีราคาสูงกว่าการสร้างบ้านแบบธรรมดา ทำให้ราคาขายสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งต้องมีการอธิบายให้ผู้ซื้อเข้าใจอย่างชัดเจนว่า บ้านแบบ ZEH เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้ผู้อยู่อาศัยมีชีวิตที่สบายขึ้นด้วย

“รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีการทำโรดแมป สำหรับนโยบาย Carbon Neutral (CN) ไว้เมื่อปี 2021(พ.ศ.2564) โดยตั้งเป้าขยายสิ่งที่ทำในพื้นที่นั้นในประเทศญี่ปุ่น ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 46% ภายในปี 2030 (พ.ศ.2573)และเพิ่มเป็น 50% ในอนาคต เพื่อให้ทำ CN  ได้ในปี 2050 (พ.ศ.2593) ซึ่งเราเรียกวิธีการขยายจากพื้นที่เฉพาะไปยังทั่วประเทศว่าการทำ decarbonization domino และเพื่อเป็นการตอบสนองบริษัทแม่ เราได้ดำเนินการสร้างอาคารแมนชั่นและบ้านเดี่ยวให้เป็น Net Zero Energy House หรือ ZEH และการใช้พลังงานทดแทนในอาคารที่ครอบครองอยู่ คือตั้งใจเปลี่ยนอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และอาคารพาณิชย์ต่างๆที่อยู่ใจกลางโอซาก้า และตามทางรถไฟให้เลิกใช้ไฟฟ้าหันมาใช้พลังงานทดแทนทั้งหมด คาดการว่า 90% ของพลังงานไฟฟ้าจากอาคาร 41 แห่ง จะถูกเปลี่ยนไปใช้เป็นพลังงานทดแทนภายในเดือนมีนาคม 2026 (พ.ศ.2569)”นายโทดะ กล่าว

ทั้งนี้การทำให้พลังงานที่ใช้เป็น 0 เป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างยาก เกณฑ์ของ ZEH จึงแบ่งปริมาณพลังงานที่ใช้ลดลงเป็น 4 ระดับ ดังนี้

1.ZEH Oriented เป้าหมาย ลดการใช้พลังงานได้ไม่ต่ำกว่า 20% รวมการใช้พลังงานสะอาด

2.ZEH Ready เป้าหมาย ลดการใช้พลังงานได้ 50%ขึ้นไป รวมการใช้พลังงานสะอาด

3.Nearly ZEH   เป้าหมาย ลดการใช้พลังงานได้ 75%ขึ้นไป รวมการใช้พลังงานสะอาด

4.ZEH   เป้าหมาย ลดการใช้พลังงานได้ 100%ขึ้นไป รวมการใช้พลังงานสะอาด

โดยล่าสุดทาง เสนา กรุ๊ป ร่วมมือกับบริษัท ฮันคิว ฮันชินฯ ดึงโนฮาวน์ ZEH มาปรับใช้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ภายใต้ “SENA HHP Zero Energy House” และนำแนวคิด Geo Fit+ ประยุกต์ใช้ควบคู่ไปกับโมเดล Zero Energy Housing (ZEH) อีกด้วย

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*