ไนท์แฟรงค์ฯ ถอดรหัสความสำเร็จโครงการ ศาลายา วัน เรสซิเดนท์ ขึ้นแท่นคอนโดแบรนด์พรีเมี่ยมขายดีในทำเลศาลายา ชู 5 ปัจจัยสร้างปรากฎการณ์พรีเซล ตึก A และ C ยอดจองทะลุเป้า พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่สิ้นปีนี้ เดินหน้าเปิดขายตึกใหม่อาคาร B หลังปิดการขายไปแล้วกว่า 80% มั่นใจเต็มร้อยดันมาตรฐานคอนโดมิเนียม นวัตกรรมสุดล้ำ Smart Room Smart Building โชว์ศักยภาพยืนหนึ่งทำเลศาลายา ตอบโจทย์ความต้องการอยู่เองก็สบาย ลงทุนก็ได้ ชี้อัตราการปล่อยเช่าพุ่ง 90-100%
นางสาวพจมาน วรกิจโภคาทร
นางสาวพจมาน วรกิจโภคาทร หัวหน้างานบริหารงานขายโครงการ ฝ่ายที่ปรึกษาด้านที่พักอาศัย บริษัท​ ไนท์แฟรงค์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากนำเสนอโครงการคอนโดมิเนียม ศาลายา วัน เรสซิเดนท์ (SALAYA ONE RESIDENCES) บนทำเลศักยภาพศาลายา จังหวัดนครปฐม ซึ่งสร้างกระแสตอบรับอย่างคึกคักจากยอดจองพรีเซล (Presale) มากถึง 800 ล้านบาท โดยความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจาก 5 ปัจจัยหลักที่สำคัญที่ส่งผลให้ “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” สามารถยืนหนึ่งในใจลูกค้าในย่านศาลายาได้อย่างเต็มตัว ดังนี้

1.คอนเซ็ปต์โครงการที่มาพร้อมพื้นที่มิกซ์ยูส (Mix-used) หนึ่งเดียวในย่านศาลายาที่ครบทั้งที่พักอาศัย โรงแรม เซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ หอพักสตรี ไลฟ์สไตล์มอลล์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ  ภายในโครงการ

2.ทำเลที่ตั้งโครงการบนทำเลศักยภาพบริเวณปากซอยตั้งสิน อยู่ฝั่งเดียวกับมหาวิทยาลัยมหิดล การเดินทางสะดวกทะลุออกไปถนนหลักบรมราชชนนี และเชื่อมต่อไปถนนพุทธมณฑล สาย 4 และ 5 ซึ่งเป็นจุดที่เดินทางสะดวกสบาย รวมถึงการเชื่อมต่อไปยังโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง

3.การออกแบบห้องฟังค์ชั่นครบตอบโจทย์และพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ให้สามารถรองรับการใช้ชีวิต 2 คนได้สบาย

4.ยืนหนึ่งด้านความคุ้มค่า ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้ออยู่เองก็สบาย ลงทุนก็ได้ผลตอบแทนในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยมีราคาเริ่มเพียง 77,600 บาท/ตารางเมตร เฟอร์นิเจอร์ครบ และ พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ปลายปีนี้

5.กลยุทธ์การตลาดที่เจาะหมัดตรงถึงผู้ซื้อทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์​ รวมถึงการให้บริการให้คำแนะนำในการซื้อกับลูกค้าเพื่อส่งผลให้เกิดการบอกต่อและซื้อซ้ำ

“ความสำเร็จดังกล่าวไนท์แฟรงค์มองตลาดให้ขาดว่าลูกค้าต้องการอะไรด้วยการลงพื้นที่ศึกษาตลาด และหาข้อมูลตลาดเช่า ซึ่งก็พบว่าจำนวนโครงการที่เปิดขายในกลุ่มพรีเมี่ยมยังมีอยู่น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เจาะตลาดในกลุ่ม C เป็นหลัก ดังนั้นข้อมูลที่ได้จะนำมาพัฒนาเป็นโปรดักท์ระดับพรีเมี่ยมที่ตอบสนองความต้องการให้กับ 2 กลุ่มหลัก คือกลุ่มอยู่เอง และกลุ่มลงทุน” นางสาวพจมาน กล่าว

นอกจากทำเลที่ตั้งแล้ว หนึ่งในจุดเด่นของโครงการ “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” ก็คือ การออกแบบห้องขนาดใหญ่ 34.9 ตารางเมตร ให้มีพื้นที่การใช้งานกว้าง และสะดวกสบาย เพียงพอสำหรับการอยู่อาศัย 2 คนได้อย่างสบาย เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดพื้นที่ห้องในย่านเดียวกันซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 22 – 32 ตารางเมตร

สำหรับแผนพัฒนาในอาคาร B นางสาวพจมาน กล่าวว่า เป็นการต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการมอบประสบการณ์ใหม่ของการพักอาศัยที่แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เพิ่มเติมด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ Smart Room Smart Building ที่จะเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Video door phone เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย สามารถกด Alarm จากในห้องไปยังที่นิติบุคลกรณีฉุกเฉิน สามารถเห็นหน้าและพูดคุยกับผู้มาติดต่อจาก Lobby ได้โดยไม่ต้องลงมาด้านล่าง และยังสมารถเข้าถึงกล้องวงจรปิดบางส่วนบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง  พร้อมกันนี้ยังมี Smart switch สามารถสั่งการเปิดปิดด้วยเสียงหรือตั้งเวลาเปิดปิดผ่านมือถือทำให้สะดวกสบายไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน, Smart air control สามารถสั่งการเปิดปิดด้วยเสียงหรือตั้งเวลาเปิดปิดผ่านมือถือ เป็นต้น

นางสาวพจมาน กล่าวว่า บริษัทฯ วางกลุ่มเป้าหมายไว้ใน 2 กลุ่มหลัก คือ ซื้อเพื่ออยู่เอง และซื้อเพื่อลงทุน มีทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ซึ่งครอบครัวมีกำลังซื้อสูง รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนี้ ตลาดเช่าในย่านศาลายาก็มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อทั้งอยู่เองและปล่อยเช่าด้วย โดยการนำเสนอให้ลูกค้าได้เห็นถึงโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมเปรียบเทียบถึงเงินลงทุนกับผลตอบแทนที่จะได้รับ หากเป็นคอนโดมิเนียมในเมืองย่าน CBD ผลตอบแทนปัจจุบันอยู่ที่ 3-4%ต่อปีเท่านั้น ขณะที่การลงทุนในโครงการทำเลศาลายาจะมีผลตอบแทนเฉลี่ย 5-6% ต่อปี  (Demand เช่ามีความต้องการสูงและกลุ่มเป้าหมายผู้ต้องการเช่ามี NEW Demand ทุกปีจากการเปิดรับนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยต่างๆโดยรอบ ทำให้สามารถคาดการณ์จำนวนผู้เช่าได้แม่นยำและระยะเวลาการเช่าส่วนใหญ่จะเป็นแบบยาว 4 ปี)

“ปัจจุบันโครงการพรีเมี่ยมอะพาร์ตเมนต์ในย่านศาลายา จะมีอัตราค่าเช่าต่อเดือน ประมาณ 10,000-15,000 บาท/เดือน และมีอัตราการปล่อยเช่าอยู่ที่ 90 – 100% ส่วนอะพาร์ตเมนต์อีกตลาด ค่าเช่าต่อเดือนประมาณ 3,000-7,500 บาท/เดือน และมีอัตราการปล่อยเช่าอยู่ที่ 70-80%” นางสาวพจมาน กล่าว

สำหรับ “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” อาคาร A และอาคาร C  สามารถทำยอดจองไปแล้วกว่า 80% รวมมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท ซึ่งทางไนท์แฟรงค์ฯ และ บริษัท มีนำ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เจ้าของโครงการ มุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและลงทุนอย่างแท้จริง โดยในส่วนของรีเทล อยู่ระหว่างการทำความร่วมมือกับร้านค้าต่าง ๆ  ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ ร้านทำเล็บ และ ร้านเครื่องเขียน

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*