The Forestias โครงการเมืองแห่งการอยู่อาศัย และใช้ชีวิต ที่มุ่งเน้นเรื่องสุขภาพและความสุข เพราะที่แห่งนี้ต้องการสร้างผืนป่าที่เป็นเสมือนการจำลองระบบนิเวศวิทยาบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ซึ่งมีทีพักอาศัยหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียมแบรนด์ “Whizdom The Forestias” , Mulberrry Grove The Forestias , The Aspen Tree at The Forestias และ Six Senses Residence บ้านเดี่ยวหรูระดับ Super Luxury
ที่ล่าสุดThe Forestias by MQDC ได้เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด “The Forestias Signature Series” (เดอะ ฟอเรสเทียร์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์) คอนโดมิเนียมแบรนด์ Flagship ที่คุณบี-ทิพพาภรณ์ (เจียรวนนท์) อริยวรารมย์ วางแนวคิดการพัฒนาโดยเน้นพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านรูปแบบ Vertical Living โดยมีความโดดเด่นที่มองเห็นผืนป่าทั้ง 30 ไร่ เปิดรับวิวมุมมองของป่าแบบทอดยาวในทุกยูนิต และเป็นโครงการคอนโดเพียงแห่งเดียวที่เชื่อมต่อกับ Canopy Walk ทางเดินเท้ายกระดับที่มีความสูงเทียบเท่าระดับยอดของต้นไม้ ความยาว 1.6 กิโลเมตรที่ สามารถเดินเข้าโครงการได้เลย
ทางเข้าหน้าครงการ The Forestias Signature Series
จุด Drop off ด้านหน้าก่อนเข้าสู่ตัวโครงการ The Forestias Signature Series
บรรยากาศภายในโครงการ The Forestias Signature Series
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการประกอบด้วย
ชั้น 1 – Tree House, Lobby, Co-Working Space, Multi-Purpose Lawn, Forest Terrace, Woodlands Lobby, Great Forest Lobby, Smart Locker, Bicycle Parking
ชั้น 2 – The Enchanted Lounge, Play Room, Immersia Theater, Evergreen Dining Room, Private Salon, Private Spa
ชั้น 20 – Yoga Room, Pirates Room, Golf Simulator
ชั้น 21 – GYM, Swimming Pool, Thermal Pool, Kids Pool, Separate Male & Female Saunas
ชั้น 22 – Moonwake Club
ชั้น 35 – Forest View Terrace
ชั้น 39 – Sunset View Terrace
ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันด้วยความเป็นส่วนตัวอย่างสูงสุด ตั้งแต่ lobby ทางเข้าที่ถูกออกแบบให้เป็นDouble gate โดยพื้นที่ส่วนแรกจะออกแบบให้เป็นโซนฆ่าเชื้อก่อนที่จะเข้าถึงพื้นที่ Lobby ด้านในของโครงการ ถัดเข้ามาโซนด้านในจะเป็น Lobby ที่ทางโครงการแยกพื้นที่อย่างชัดเจนระหว่างลูกบ้านกับผู้มาติดต่อ และพื้นที่ชั้น 2 ที่ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับลูกบ้าน รวมไปถึงชั้น 20-22 ที่ทางโครงการออกแบบเป็นโซน Health&Wellness ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางบริเวณนี้จะเป็นการดูแลเรื่องสุขภาพ ที่ประกอบด้วย Fitness , Swimming Pool (สระว่ายน้ำ) ที่ประกอบด้วย Lap Pool , Termal Pool และ Kids Pool และยังมี ห้อง Yoga&Pirates
The Enchanted Lounge ที่ออกแบบเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนสไตล์ café เชื่อมต่อกับ Canopy Walk ที่เมื่อไปเดินเล่นเหนื่อยๆแล้วสามารถกลับมานักพักพร้อมรับประทานขนม เครื่องดื่มได้
ห้อง Play Room
Private Spa
Yoga&Pirates
Gym
The Relaxation พื้นที่สำหรับพักผ่อน นั่งทำงาน หรือมุมที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
จุดไฮล์ไลท์สำคัญของโครงการคือการออกแบบพื้นที่ห้องพักอาศัยที่มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 140 ตารางเมตร ถึง 350 ตารางเมตร พร้อมด้วยห้อง Penthouse ขนาด 917 ตารางเมตร บนชั้น 43 และยูนิตพิเศษที่ยก Private Plunge Pool มาไว้ในห้องส่วนตัวที่มีจำนวนจำกัด โดยรูปแบบห้องเริ่มต้นที่ 2-5 ห้องนอน ในราคาเริ่ม 37 ล้านบาท
ไม่ใช่เพียงแค่การออกแบบให้มีพื้นที่ใหญ่ๆเท่านั้นแต่การจัดวางแปลนและฟังก์ชั่นต่างๆ ให้ความรู้สึกเหมือนการใช้ชีวิตในบ้านจริงๆ ไม่ใช่แค่การอยู่คอนโดมิเนียม แต่การออกแบบมีการคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านผู้พักอาศัย ตั้งแต่การแยกลิฟท์ของผู้พักอาศัยที่ลิฟท์ของลูกบ้านจะเป็น Private Lift Lobby แบบล็อคชั้น ล็อคห้องด้วย ซึ่งแต่ละชั้นจะมียูนิตพักอาศัยทั้งหมดสูงสุดแค่ 4 ยูนิตเท่านั้น และน้อยสุดก็คือ 1 ยูนิตต่อชั้น โดยแยกพื้นที่สำหรับแม่บ้านที่มาทำงาน ทำให้ไม่รบกวนกันแยกโซนออกจากที่พักอาศัยอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีห้องพักอาศัยของแม่บ้านภายในตัวที่สามารถทำงานเฉพาะพื้นที่บริเวณครัวไทยและห้องซักรีดเท่านั้น เจ้าของบ้านสามารถตั้งรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (One Time Password) สำหรับแม่บ้านที่เข้ามาเซอร์วิสดูแลในส่วนของที่พักอาศัยได้อีกด้วย
ตัวอย่าง Floor Plan สำหรับชั้นพักอาศัย ชั้น 8th – 12th Floor
ห้องพักของ Maid หรือ แม่บ้าน ที่โดยรวมถือว่าค่อนข้างดีมากๆเทียบเท่ากับคอนโดยูนิตเล็กๆบางโครงการในเมืองเลยทีเดียว
ห้องน้ำของห้องแม่บ้าน
ห้องซักรีด ที่แยกพื้นที่ออกจากห้องพักอาศัยเป็นสัดส่วนที่ช่วยให้แม่บ้านทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นและช่วยให้พื้นที่ให้ห้องพักดูมีความเป็นส่วนตัว
พื้นที่ครัวไทยสำหรับการจัดเตรียมอาหารของแม่บ้าน ซึ่งมีความเป็นสัดส่วนสูงช่วยลดการรบกวนกลิ่นจากการประกอบอาหารได้ดี และมีพื้นที่จัดส่งอาหารโดยที่แม่บ้านไม่ต้องเข้าไปยังพื้นที่สำหรับพักอาศัยส่วนตัว
ที่สามารถจัดส่งผ่านช่องสำหรับจัดส่งอาหารที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่พักอาศัยกับพื้นที่โซนทำงานของแม่บ้าน
รวมถึงการดูแลและงานบำรุงรักษาระบบงานต่างๆ ที่ทางอาคารได้มีการออกแบบแยกออกจากพื้นที่ภายในตัวห้อง ที่จะช่วยให้ช่างสามารถเข้ามาดูแลรักษางานระบบอาคาร โดยเฉพาะงานท่อหลัก ได้โดยไม่ต้องเข้าไปในห้องพักอาศัยอีกทั้งยังสามารถบำรุงรักษาอาคารให้มีอายุยาวนาน โดยที่ไม่รบกวนการอยู่อาศัยของลูกบ้าน
พื้นที่ห้องพักอาศัยเมื่อออกจากลิฟท์พื้นที่แรกจะเป็น Porch area ที่ทางโครงการดีไซน์ให้เป็นพื้นที่จัดเก็บ รองเท้า อุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องหยิบใช้หรือจัดเก็บเป็นประจำก่อนออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในแต่ละวันหรือเมื่อกลับมาถึงบ้าน
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโซน Living & Dining area ที่ออกแบบเป็นพื้นที่เปิดเชื่อมต่อการใช้งานร่วมกัน บริเวณ Dining area จะมี Pantry ครัวฝรั่ง ที่มีเคาน์เตอร์ หรือ Island สำหรับจัดเตรียมอาหาร โดยให้ Spec เป็น หินแบบ Hybrid Stone คุณภาพสูง บิวท์อินตู้เก็บของบริเวณครัวมาอย่างลงตัวและเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ gaganouse ที่จะเห็นได้ในโครงการระดับหรูขึ้นไปที่เลือกใช้ พร้อมด้วยตู้เย็นบิวท์อินสวยงามเป็นพื้นเดียวกัน
โครงการจัดวางชุดเฟอร์นิเจอร์ของ EURO Creation ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งหากสนใจสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามราคากันได้ตามตกลง นอกจากนี้โซน Living area ยังมีมุมนั่งพักผ่อนวำหรับครอบครัว ไม่เพียงเท่านั้นความพิเศษที่ทางโครงการมอบให้คือติดตั้งผู้ช่วยที่จะทำให้การใช้ชีวิตง่ายและสะดวกขึ้นด้วยหุ่นยนต์ “น้องไข่ต้ม” ให้กับทุกห้องพักอาศัยภายในโครงการ The Forestias ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งกล้อง CCTV มอนิเตอร์เหตุการณ์ต่างๆภายในบ้าน รวมถึง Smart Home ที่สามารถสั่งงานผ่านเสียงได้ง่ายๆ
พื้นที่ Living area สำหรับนักพักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกันเปิดโล่ง รองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
บริเวณ Pantry area ที่เชื่อมต่อกับโซน Living area ทางโครงการออกแบบให้เป็นครัวสไตล์ฝรั่งสำหรับจัดเตรียมอาหาร
พื้นที่โซน Dining area สำหรับรับประทานอาหารร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว
สำหรับ Master Bedroom จะเปิดรับวิวป่ากว่า 30 ไร่ ของ The Forestias ที่ช่วยให้การพักผ่อนรู้สึกสบายตาและสดชื่นกับพื้นที่สีเขียวที่ทอดยาวสุดสายตาภายในโครงการ ตัวห้องมีความสูงที่ 3 เมตร ออกแบบโดยเน้นแสงธรรมชาติ ทำให้มีความโปร่ง โล่ง สบาย สร้างความรู้สึกผ่อนคลายไปพร้อมกับวิวป่าอันเขียวขจี วัสดุที่ทางโครงการให้ล้วนเลือกสรรคุณภาพและคำนึงถึงประโยชน์ต่อการใช้งานที่ทำให้การอยู่อาศัยรู้สึกสบายและลงตัวในทุกตารางนิ้ว
ตัวพื้นเป็นไม้ Engineering wood ลายไม้ธรรมชาติสัมผัสได้ถึงผิวไม้จริงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นของการอยู่อาศัย ปูลายแบบก้างปลา ผนังกระจกขนาดใหญ่ Full High ในทุกพื้นที่ของห้องที่เป็น Insulated glass ปกป้องเสียงรบกวนจากภายนอกและช่วยลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในห้องได้ดี ห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom ออกแบบให้เป็น Sexy Bath ที่ผนังเป็นกระจกใส พร้อมติดตั้ง Bath Hub มาให้พร้อมใช้งาน และอ่างล้างมือแบบ His & Her และแยกพื้นที่ระหว่างโซน Shower กับ Toilet ออกจากกัน ที่รองรับการใช้งานห้องน้ำพร้อมกันในช่วงเวลาเร่งรีบ สุขภัณฑ์แบรนด์ TOTO อุปกรณ์มือจับโทนสีโรสโกลด์ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา พรีเมี่ยม
พื้นที่ Walk in Closet ภายในห้อง Master Bedroom
ห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom
อ่างล้างหน้าที่ถูกออกแบบให้เป็นแบบ His&Her ที่สามารถใช้งานพร้อมกันได้
แยกพื้นที่ระหว่าง Toilet กับ Shower Room
นอกจากนี้ความพิเศษของห้องตัวอย่างที่โครงการทำไว้ขนาด 185 ตารางเมตร ที่เพิ่มขึ้นมาคือห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานห้องผู้อยู่อาศัย โดยทางโครงการออกแบบให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยการตกแต่งห้องให้เป็นห้องสำหรับทำงาน ถือเป็นห้องที่มีความพิเศษที่ตอบโจทย์ผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี
ทางโครงการออกแบบให้ดูเป็นตัวอย่างโดยทำเป็นห้องสำหรับทำงาน ซึ่งพื้นที่ห้องนี้มีขนาดใหญ่จริงๆสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนอีกห้องก็ยังได้
ห้องนอนที่ 2 ที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ Master Bedroom มีห้องน้ำภายในตัวแตกต่างกัน ที่ Bath Hub ที่ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งมาให้พร้อมกับของชุดพักอาศัย สามารถทำพื้นที่ Walk-in-Closet ที่มีขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานได้อย่างลงตัว
พื้นที่ภายในห้องนอนที่ 2
พื้นที่ Walk in Closet สำหรับแต่งตัวเมื่อออกมาจากห้องน้ำ
พื้นที่ห้องน้ำภายในห้องนอน 2
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดออกไปรับชมวิวป่ากว่า 30 ไร่ ใจกลางฟอเรสเทียร์ได้อย่างสุดสายตา พร้อมเปิดรับโอโซนได้อย่างเต็มปอด สำหรับยูนิตพิเศษพื้นที่บริเวณนี้จะถูกเปลี่ยนเป็น Private Plunge Pool ที่ยกสระส่วนตัวมาไว้ภายในห้องพักอาศัย
พื้นที่บริเวณระเบียงของห้องพักอาศัยที่มีขนาดใหญ่ สามารถเลือกวางชุดเก้าอี้หรือเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ พร้อมกับการชมวิวป่า 30 ไร่ กับการใช้ชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดี
The Forestias Signature Series คอนโดมิเนียมสูง 44 ชั้น เพียง 122 ยูนิตเท่านั้น รองรับที่จอดรถมากถึง 200 % รวมถึงมีบริการ concierge service ผู้ช่วยที่คอยดูแลลูกบ้านอย่างใกล้ชิด นี่เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่มีทำเลที่ดีที่สุด รูปแบบห้องที่มีขนาดใหญ่ตอบรับการใช้ชีวิตในปัจจุบันและถูกคัดสรรด้วยคุณภาพสูง วัสดุอุปกรณ์ระดับ High Spec ที่วันนี้พร้อมเปิดชมห้องตัวอย่างแล้ว ชวนมาสัมผัสด้วยตัวคุณเองที่ The Forestias Signature Series
