พราว เรียลเอสเตทฯปลื้ม “รมย์ คอนแวนต์”เปิดขาย 5 เดือน ยอดขายพุ่งแล้ว 1,400 ล้านบาท เตรียมรุกเจาะตลาดลูกค้าจีน ไต้หวัน  ฮ่องกง สิงคโปร์ จับตาเศรษฐีเมียนมา เริ่มหอบเงินซื้อคอนโดฯในไทยต่อเนื่อง พฤติกรรมเน้นเยี่ยมชมโครงการด้วยเอง ห้องขนาดใหญ่ได้รับความสนใจมากสุด  ล่าสุดเอาใจเรียลดีมานด์เปิดห้องซีรีส์ใหม่ 4 รูปแบบ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมอบตั๋วเครื่องบิน กทม.-ยุโรป และส่วนลดสูงถึง 800,000 บาท ระบุแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง เร่งโอนกรรมสิทธิ์เตรียมปิดขาย “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน”โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 รายได้ 1,192 ล้านบาท โต 984% กำไรสุทธิ 147 ล้านบาท คาดยอดขายทั้งปีตามเป้า 1,705 ล้านบาท
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง 2566 ว่า ยังมีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยโดยสังเกตได้จากการที่ลูกค้ามีการเข้าเยี่ยมชมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่เร่งรีบในการตัดสินใจ อันเนื่องมาจากปัจจัยด้านแมคโครยังเป็นตัวแปร อาทิ อัตราดอกเบี้ย  แต่ตลาดท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาวรัสเซียที่หันมาซื้ออสังหาฯไทยมากขึ้น ส่วนชาวจีน จะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 3/2566 นี้ ซึ่งเริ่มเห็นว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กลับมาติดอันดับ TOP 3 แล้ว

ส่วนความคืบหน้าโครงการ“รมย์ คอนแวนต์”(ROMM Convent) หลังเปิดพรีเซลมาตั้งแต่เดือนมีนาคม-กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีกระแสตอบรับดีเกินคาด โดยเฉพาะห้องขนาดใหญ่อย่าง Sky Villa และห้อง 3 ห้องนอน ส่งผลให้สามารถทำยอดขายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท หรือเดือนละประมาณ 200 กว่าล้านบาท คิดเป็น 32% จากมูลค่ารวมโครงการ 4,150 ล้านบาท  โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย ซึ่งห้องขนาด 1และ 3 ห้องนอนจะขายดีที่สุด เพราะมีขนาดที่ใหญ่กว่าโครงการอื่นๆ โดย 1 ห้องนอน มีขนาดเริ่มต้นที่ 42 ตารางเมตร และสามารถปล่อยเช้าได้ในราคาที่ดี เช่น ห้องขนาด 2 ห้องนอน ราคาเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท/ตารางเมตร/เดือน โดยราคาที่ดินย่านสีลม-สาทร ถือว่าติดอันดับ TOP5 ราคาที่ดินราคาที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดถึง 7% ต่อปี และขณะนี้อยู่ในระหว่างการรุกเจาะตลาดลูกค้าจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง เพิ่มเติม

และตลาดลูกค้าใหม่ที่กำลังน่าจับตลาดและมองหาช่องทางในการทำตลาดเพิ่มอีกประเทศคือ “เมียนมา” ซึ่งพบว่าที่ผ่านมาเริ่มมีกลุ่มนักธุรกิจที่มีศักยภาพด้านการเงินเข้ามาลงทุนซื้ออสังหาฯในเมืองไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดฯระดับลักชัวรีขึ้นไปในย่านใจกลางเมือง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะสถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมาที่ยังไม่นิ่ง ส่งผลให้นักธุรกิจต่างๆ หันมาซื้อที่อยู่อาศัยนอกประเทศมากขึ้น และประเทศไทยก็ถือเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ชาวเมียนมาให้ความสนใจ และจากพฤติกรรมพบว่าส่วนใหญ่นักธุรกิจชาวเมียนมาจะชอบห้องที่มีขนาดใหญ่ และเดินทางมาชมห้องตัวอย่างด้วยตนเอง

“ที่ผ่านมาเราไม่เคยทำการตลาดเจาะลูกค้าชาวเมียนมามากนัก เพราะยังไม่มีตัวแทนอย่างเป็นทางการ แต่หลังจากนี้ไปจะต้องมีการศึกษาข้อมูล และทำการตลาดกับลูกค้าชาวเมียนมามากขึ้น” นางสาวพราวพุธ กล่าว

ล่าสุดเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเรียลดีมานด์ บริษัทฯได้เปิดห้องซีรีส์ใหม่ 4 รูปแบบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ เพดานสูงโปร่ง ฟังก์ชั่นหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ถือเป็นห้องรูปแบบ 2 และ  3 ห้องนอนขนาดใหญ่ที่หาได้ยาก และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมากในขณะนี้ ประกอบด้วย

LA FORÊT VILLA: ห้องขนาด 128 ตารางเมตร ชั้น 3-11 ราคาเริ่มต้นที่ 3.1 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 251,000 บาท/ตารางเมตร ถือว่าเป็น Rare item ห้องสวยของโครงการ รับวิว 270 องศาที่เน้นให้ผู้อยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติรายล้อมด้วยความเขียวชอุ่มจากยอดไม้ที่ได้จากพื้นที่สวนด้านล่างของโครงการ และสวนโดยรอบฝั่งโบสถ์คริสต์และอุโมงค์ต้นไม้ตลอดซอยคอนแวนต์  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากในราคาคุ้มค่า

2 BEDROOM PLUS: ห้องขนาด 119.49 ตารางเมตร ชั้น 3-20 เป็นรูปแบบ 2 ห้องนอนและ 1 ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ยืดหยุ่นต่อความต้องการของสมาชิกในครอบครัว าคาเริ่มต้นที่ 7.5 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 262,000 บาท/ตารางเมตร

JUNIOR PENTHOUSE: ห้องขนาด 181.65 ตารางเมตร ชั้น 23-27  ราคาเริ่มต้นที่ 51 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 286,000 บาท/ตารางเมตร ออกแบบสำหรับครอบครัวใหญ่ให้คุณได้สัมผัสความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่และความลงตัวของทุกห้องที่สามารถชมวิวได้ในทุก ๆ ห้อง และเพิ่มพื้นที่ด้วยทางเข้าออกห้องแบบ 2 ทางแยกกัน แถมสิทธิจอดรถได้ถึง 3 คัน

PENTHOUSE 1-2: ห้องขนาด 418.61 – 469.85 ตารางเมตร บนชั้น 28 – 29 จัดมาเพื่อความพิเศษที่สุดของความเหนือระดับ ด้วยพื้นที่การใช้งาน 2 ชั้นและสวนส่วนตัวลอยฟ้ารับวิวได้สุดสายตา แบ่งฟังก์ชั่นใช้งานไว้อย่างลงตัว พร้อมผู้เชี่ยวชาญให้ออกแบบตกแต่งเพิ่มเติมโดย PIA

โดยช่วง Grand Opening ยังมีโปรโมชั่นพิเศษมอบตั๋วเครื่องบิน กทม.-ยุโรป และส่วนลดสูงถึง 800,000 บาท พร้อมจัดงาน “A Life Retreat Exhibition” นิทรรศการที่จะพาคุณรื่นรมย์ในชีวิตผ่าน 5 สัมผัส  SEE SOUND SCENT SENSE TOUCH ในโครงการ “รมย์ คอนแวนต์” (ROMM Convent) สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้ – 22 กันยายน 2566

“การที่เราเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯจะต้องใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่การซื้อที่ดิน ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูล ความถูกต้อง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ และอะไรที่มองว่าเป็นการสุ่มเสี่ยงก็จะไม่ซื้อโดยเด็ดขาด และเมื่อพัฒนาโครงการแล้ว จะต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จเพื่อส่งมอบให้กับลูกบ้านทุกคน”นางสาวพราวพุธ กล่าว

นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ
นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD กล่าวถึงทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ว่ามีทิศทางที่ดี บริษัทฯ มองหาโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานการสร้างรายได้ให้กว้างขึ้น วางแผนซื้อที่ดินแปลงใหม่เพิ่ม รวมถึง มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม

ทั้งนี้ การเข้าซื้อ 2 โครงการจาก บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ NOBLE และ บริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด ได้แก่ นิว ดิสทริค อาร์ 9 (NUE District R9 ) มูลค่าโครงการ 6,519 ล้านบาท และ “นิว ครอส คูคต สเตชัน (NUE Cross Khu Khot)” มูลค่าโครงการ 2,104 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายแล้ว 100% คาดว่าเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ในต้นปี 2567 เป็นต้นไป ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 9,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงปี 2569

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 รายได้รวม 1,192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,082 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 110  ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 984% และมีกำไรสุทธิ 147 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 58 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/2566 มีรายได้รวม 288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 178 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 110  ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 162% และมีกำไรสุทธิ 9 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 20  ล้านบาท

ทั้งนี้ผลประกอบการในส่วนของรายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการขายและทยอยส่งมอบโครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” อีกทั้ง บริษัทฯ เร่งโอนกรรมสิทธิ์เตรียมปิด (Sold Out) โครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” มูลค่า 3,840 ล้านบาท จำนวน 238 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 92% หรือมูลค่ารวม 3,515 ล้านบาท มียอดขายรอโอน (Backlog) 229 ล้านบาท  คาดการโอนเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3/2566

อีกทั้ง บริษัทเดินหน้าจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย โครงการคอนโดมิเนียม “เวหา หัวหิน”(VEHHA)  คอนโดมิเนียมลักชัวรี่ที่สูงที่สุดบนทำเลศักยภาพในหัวหิน มูลค่าโครงการ 2,290 พันล้านบาท จำนวน 364 ยูนิต ปัจจุบัน มียอดขาย (Pre-Sale) แล้ว 33%

ด้านภาพรวมยอดขายของบริษัทฯ ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ คาดยอดขายทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมาย 1,705 ล้านบาท

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*