เคหะสุขประชาฯเตรียมชง 2 แผนงานใหญ่เสนอรมว.พม.คนใหม่ ทั้งอยู่ระหว่างเจรจารฟม.นำที่ดินใกล้สถานีคลองบางไผ่-สถานีบางหว้า ร่วมศึกษาการพัฒนาเมือง ระบุรัฐบาลเศรษฐา 1 อาจไม่ทันรันโครงการเดินหน้า ด้านแผนร่วมทุนภาคเอกชน พบหลายจังหวัดให้ความสนใจนำที่ดินใกล้การก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงร่วมโครงการ เร่งระดมทุนและจบการเจรจาในปี66 คาดใช้งบไม่ต่ำ 1,500 ล้านบาท
นายพิษณุพร อุทกภาชน์
นายพิษณุพร อุทกภาชน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) หรือ K-HA บริษัทในเครือการเคหะแห่งชาติ(กคช.) ที่มีการร่วมทุนกับภาคเอกชน โดยมีภารกิจในการทำโครงการ “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” เปิดเผยว่า นอกจากการสร้างบ้านที่อยู่อาศัยให้ได้ 100,000 แล้ว ยังได้มอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืน ผ่านอาชีพหลักทั้ง 6 ประการ ได้แก่ เกษตรกรรม ปศุสัตว์ ตลาด งานบริการ ศูนย์การค้าปลีกค้าส่ง และอุตสาหกรรมขนาดเล็ก โดยทาง เคหะสุขประชา ยังคงเดินหน้าในการดูแลครอบครัวเปราะบางได้ที่อยู่อาศัยง่ายและสะดวกขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้มอบหมายไว้ โดยทาง เคหะสุขประชาฯ ได้เตรียมนำเสนอผลงานที่ดำเนินการมาแล้ว รวมถึงสรุปแผนงานและรายละเอียดต่างๆที่จะต้องเร่งดำเนินการ ผ่านไปยังการเคหะแห่งชาติ เพื่อนำเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)

โดยแผนงานที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ ที่จะต้องมีการพิจารณาได้แก่

1.การเพิ่มจำนวนโครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพ รองรับการสร้างรายได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการรับโอนบ้านเอื้ออาทร จากการเคหะฯที่ค้างอยู่ประมาณ 20,000 หน่วย โอนมายัง บมจ.เคหะสุขประชาในเบื้องต้น 6,000 หน่วย เพื่อนำมาปรับปรุง(รีโนเวท)ใหม่และเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาร่วมโครงการ และนำรายได้คืนให้กับการเคหะฯ ซึ่งส่วนนี้ต้องมีงบประมาณมารองรับการรีโนเวทใหม่ แปลงที่เราสนใจ เช่น ในอ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 400-500 ห้อง และที่จังหวัดเชียงใหม่ เหมาะทำเป็นศูนย์ผู้สูงอายุ เป็นต้น

 2.ทำโครงการบ้านเคหะสุขประชาเพิ่มเติม โดยที่อยู่ในแผนงานเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ มีโครงการต้นแบบเพิ่มอีก 3 พื้นที่ ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชา วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ,โครงการบ้านเคหะสุขประชา ลำลูกกาคลอง 12 จ.ปทุมธานี และโครงการบ้านเคหะสุขประชาธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม และยังมีอีก 13 โครงการ เตรียมทำเคหะสุขประชา เช่น พื้นที่ในจังหวัดปทุมธานี ,สมุทรปราการ ,สุพรรณบุรี ,เชียงใหม่ ,แม่ฮ่องสอน ,สระบุรี ,สระบุรี ,กำแพงเพชร ,นครสวรรค์ และระยอง เป็นต้น เพื่อสร้างบ้านพร้อมอาชีพให้ครอบคลุมกลุ่มครอบครัวเปราะบางมากยิ่งขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนให้เกิดความยั่งยืน ทั้งนี้คาดว่าจะมีบ้านเช่าพร้อมอาชีพรองรับรวมทั้ง 16 โครงการ รวมประมาณ 5,000-6,000 ห้อง

นอกจากนี้ กำลังเจรจากับทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในการศึกษานำที่ดินใกล้สถานีคลองบางไผ่ และสถานีบางหว้า มาศึกษาการพัฒนาเมือง (TOD) เช่น โครงการแนวสูง เป็นต้น  โดยก่อนหน้านี้ ทางเคหะสุขประชาฯ ได้ส่งมอบ 2 โครงการต้นแบบให้กับผู้ได้สิทธิแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย รวม 572 หน่วย ซึ่งบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง ขณะนี้ได้พัฒนาพื้นที่ตลาดเสร็จแล้ว เพื่อรองรับการจ้างงานและสร้างอาชีพให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน และเร่งก่อสร้างโครงการเคหะสุขประชาร่มเกล้า  โดยทางโรงพยาบาลนวมินทร์ มีความสนใจที่จะมาสร้างโรงพยาบาลรองรับเบื้องต้นประมาณ 30 เตียง

“จากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล และการมีนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เชื่อมั่นว่า ประเทศไทยน่าจะดีขึ้น และโครงการที่เราทำอยู่ ก็ทำเพื่อสังคม ซึ่งรัฐบาลชุดใหม่มา ก็ได้ชื่อ การเริ่มต้นใหม่ อาจจะช้าและไม่ทันในการเดินหน้าโครงการ”นายพิษณุพรกล่าว

สำหรับในแผนงานที่ร่วมกับภาคเอกชนนั้น จะเป็นดำเนินการภายใต้ชื่อ โครงการเคหะของแต่ละจังหวัด ซึ่งมีเอกชนหลายแห่งแสดงความสนใจเข้ามา อาทิเช่น จังหวัดลำพูน ที่เจ้าของที่ดินเสนอมา 88 ไร่ อยู่บริเวณใกล้พระธาตุดอยติ เอกชนในจังหวัดเชียงราย เสนอมา 55 ไร่ เข้าร่วมโครงการ ซึ่งอยู่บริเวณ อ.เวียงชัย และอยู่ในใกล้โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง เป็นต้น

“เราพยายามเร่งดำเนินการทุกอย่าง เรื่องการจัดหาแหล่งเงิน ทางเราก็ศึกษาและหาวิธี เช่น การทำโครงการเคหะสุขประชา อาจใช้รูปแบบการออกพันธบัตร (บอนด์)มาดำเนินการคาดล็อตแรกประมาณ 2,500 ล้านบาท ขายเจาะจงนักลงทุน ซึ่งจะพยายามให้จบในปีนี้และระดมทุนได้ ส่วนโครงการของภาคเอกชน คาดใช้งบไม่ต่ำอีก 1,500 ล้านบาท”.นายพิษณุพรกล่าวในที่สุด

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*