เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์จับมือ GS E&C ยักษ์อสังหาฯอันดับ1 จากเกาหลีใต้ ผุดคอนโดฯHigh Rise “มารุ จุฬามูลค่า 1,500 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปี 67 ด้านกลุ่มทุนเกาหลีเผยมั่นใจศักยภาพประสบการณ์พัฒนาอสังหาฯของพันธมิตร พร้อมสนร่วมทุนโครงการอนาคตระยะยาว
ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือMJD เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ทำพิธีลงนามสัญญาร่วมทุนโครงการมารุ จุฬา“(Maru Chula) กับนายจิน ซู ยาง ตัวแทนและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทGS E&C ประเทศเกาหลีใต้ ที่มีประสบการณ์พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ภายใต้แบรนด์ Xi ที่มีมูลค่ากว่า 240,000 ล้านบาท ต่อปี ซึ่งโครงการที่ร่วมทุนในครั้งนี้มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปี 2567 โดยจุดเด่นของโครงการเป็นโครงการ freehold คอนโดมิเนียมระดับHigh Rise ใกล้สามย่าน, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สีลม, สาทร และเยาวราช

ในส่วนของบริษัท GS E&C  นั้นดำเนินงานด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ระดับ Top 3 ของเกาหลีใต้ที่มีโครงการก่อสร้างที่เป็นแลนด์มาร์ค เช่น National Museum of Korea และ Seoul Coex  และยังถือได้ว่าเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ทรงอิทธิพลทางการค้าและการลงทุนลำดับที่ 8 ในประเทศเกาหลีใต้ รองจาก Samsung, Hyundai, lotte, LG เป็นต้น

และถือได้ว่าบริษัท GS E&C มีประสบการณ์ในการลงทุนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหลายประเทศที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศสหรัฐอมเริกา เวียดนาม รวมถึงซาอุดิอาระเบีย

บริษัท GS E&C ตัดสินใจร่วมทุนกับเมเจอร์ฯเพราะเล็งเห็นว่าเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและมีประวัติมายาวนาน นอกจากนี้โครงการของเมเจอร์ฯที่เน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ก็สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาโครงการของ GS E&C โดยที่ GS E&C มุ่งหวังที่จะร่วมมือในการพัฒนาโครงการร่วมกับเมเจอร์ต่อไปในอนาคตระยะยาว

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการ Maru Chula เป็นกลุ่มคนทำงานย่านพระราม 4, สีลม, สาทร และกลุ่มบุคลากรและนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาใกล้เคียงโดยเมเจอร์เลือกทำแบรนด์ Maru เป็นโครงการที่ 3  สืบเนื่องมาจากกระแสตอบรับของทั้ง 2 โครงการก่อนหน้านี้ คือ Maru ลาดพร้าว ที่ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  และ Maru เอกมัยที่ขายไปกว่า 99% นั้นสามารถตอกย้ำความสำเร็จในเรื่องของยอดขาย  และได้รับการการันตีเรื่องคุณภาพและความเชื่อมั่นจากลูกค้าอย่างล้นหลาม  เมเจอร์จึงต่อยอดความสำเร็จโดยการนำรูปแบบดีไซน์ ฟังก์ชันของห้องพักอาศัย รวมถึงดีไซน์ภายนอกตัวอาคาร มาพัฒนาต่อสำหรับโครงการใหม่ ที่เน้นตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัยทำงานและนักศึกษาได้มากยิ่งขึ้น จึงมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*