แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ ชูแนวคิดคุณภาพ ‘น่าอยู่’ ในทุกมิติ ยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีของการอยู่อาศัยที่ ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียม ผ่านแคมเปญ #สารภาพว่าติดบ้าน ไตรมาส 4 ลุยเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาท ปีหน้าเจาะตลาดบ้านแนวราบเปิด 13 โครงการใหม่มูลค่า 1หมื่นล้านบาท

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างการรับรู้และสร้างประสบการณ์ใหม่ของ LPN ต่อกลุ่มเป้าหมายเดิมและขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ด้วยการส่งมอบความ ‘น่าอยู่’ ให้กับลูกค้าทุกคน ล่าสุดได้จัดการสื่อสาร Corporate Campaign ใหม่ภายใต้ชื่อ #สารภาพว่าติดบ้าน เพื่อถ่ายทอดความสุขภายใต้การอยู่อาศัยของ LPN ที่มีคุณภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ 3 เรื่องที่ได้เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ เพื่อสื่อถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในโครงการที่อยู่อาศัยของ LPN ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม

 “จากการทำรีเสิร์ชกลุ่มลูกค้าที่มีต่อแบรนด์สินค้าลุมพินีพบว่า ส่วนใหญ่รู้จักแบรนด์คอนโดฯลุมพินีเป็นอย่างดี แต่จะมองว่าแบรนด์ลุมพินีมีอายุ ไม่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Gen X ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยในคอนโดฯลุมพินีจะไม่กล้าบอกกับเพื่อนหรือคนรู้จักว่าพักอาศัยอยู่คอนโดฯลุมพินี เพระรู้สึกว่าแบรนด์นี้ไม่ทันสมัย แม้จะชื่นชอบกับการบริการและสภาพแวดล้อมภายในโครงการก็ตาม จึงเป็นที่มาของการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ โดยตั้งงบ 20ล้านบาทในการสื่อสาร Corporate Campaign ใหม่ภายใต้ชื่อ #สารภาพว่าติดบ้าน ทั้งการทำการตลาดและการจัดทำหนังโฆษณา”

ขณะเดียวกันนับจากปีนี้เป็นต้นไปบริษัทจะให้ความสำคัญกับการสื่อสารแบรนด์สินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากขึ้น โดยเฉพะกลุ่มลูกค้า Gen Y  และจะขยายฐานไปยังกลุ่ม Gen Z เพิ่มด้วย ขณะเดียวกันได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์แบบบ้านใหม่อย่างต่อเนื่องให้มีความทันสมัย บ่งบอกความเป็นตัวเองที่เรียบง่าย  แต่มีสไตล์

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่ง้ฃเป็นบ้านเดี่ยว 2 โครงการระดับราคา 5-7 ล้านบาทและราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนอีกโครงการเป็นคอนโดมิเนียม

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างทดลองการทำการตลาดแบบใหม่เพื่อลดระยะเวลาในการเปิดตัวโครงการให้สั้นลง ด้วยการนำระบบ AR หรือ Augmented Reality ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผสมผสานโลกเสมือน (virtual World) เพิ่มเข้าไปในโลกจริง และระบบ VR หรือ Virtual reality ที่มีการจำลองภาพให้เสมือนจริงแบบ 360 องศามาใช้ในการออกแบบบ้านตัวอย่าง เพื่อลดขั้นตอนการก่อสร้างบ้านตัวอย่างจริงให้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชม คาดว่าจะช่วยร่นระยะเวลาในการเปิดตัวโครงการและก่อสร้างบ้านให้เหลือ 6 เดือน โดยจะเริ่มใช้กับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ เช่น โครงการวิลล่า 168 เนื้อที่ 20 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยวขนาดเนื้อที่ 50-60  ตารางวาจำนวน 100 ยูนิตระดับราคา 12-15 ล้านบาท

นอกจากนี้ในระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายนนี้ บริษัทจะจัดงานขายครั้งใหญ่แห่งปี ‘LPN Moredinary Home Expo’  นำโครงการบ้าน ทาวน์โฮม และคอนโดฯพร้อมอยู่มาจัดโปรโมชั่น 3 ต่อ Hot Deal  ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว  ชั้น 1 โซน C  โดยปัจจุบันบริษัทมีสต็อกสินค้าพร้อมอยู่ที่มีอายุเกิน 3 ปีจำนวน 14โครงการมูลค่า 2,500 ล้านบาท โครงการพร้อมอยู่อายุไม่เกิน 3ปีจำนวน 5 โครงการมูลค่า 5,000 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 10,000 ล้านบาท

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทวางเป้าหมายจะเปิดตัวบ้านแนวราบทั้งหมดจำนวน 13 โครงการมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ขณะที่สินค้าคอนโดฯจะรอให้โครงการผ่านการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนถึงจะเปิดขาย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*