ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ย่านปริมณฑลลดต่อเนื่องเหตุโครงการเก่า-ต้นทุนเดิมยังขายไม่หมด

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯรายงานดัชนีราคาบ้านจัดสรรและห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2566  พบว่าห้องชุดมีค่าดัชนีเท่ากับ 154.3 จุด เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ดัชนีราคาห้องชุดในจังหวัดปริมณฑลปรับตัวลดลงต่อเนื่องถึง 5 ไตรมาส ส่วนใหญ่เป็นโครงการเก่าที่เปิดขายมาก่อนปี 2564 มีต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงานที่ยังไม่ปรับตัวขึ้น ส่วนดัชนีบ้านจัดสรรมีค่าเท่ากับ 130.3 เพิ่มขึ้น 0.1%

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2566  มีค่าดัชนีเท่ากับ 154.3 จุด เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาห้องชุดในพื้นที่กรุงเทพฯถึง 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565  แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าลดลง -0.5%

โดยดัชนีราคาห้องชุดใหม่พื้นที่กรุงเทพฯ มีทิศทางที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีการปรับตัวขึ้นติดต่อกันมาแล้ว 4 ไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 1 ถึงไตรมาส 4 ปี 2566 ส่วนดัชนีราคาห้องชุดในจังหวัดปริมณฑลมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องถึง 5 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565 ถึงไตรมาส 4 ปี 2566

 “การปรับลดลงของดัชนีราคาห้องชุดในจังหวัดปริมณฑล โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากโครงการเก่าที่มีการเปิดขายมาก่อนปี 2564 ยังขายไม่หมด และเป็นโครงการที่สร้างเสร็จจากต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงงานที่ยังไม่ปรับตัวขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการยังสามารถปรับลดราคาลงได้ จึงใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการขายในในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา โดยเป็นการให้ส่วนลดเงินสดและให้ของแถมเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันสูงถึง 71.5%”

ทั้งนี้ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาส 4  เมื่อแยกตามพื้นที่ พบว่ากรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 157.3 จุด เพิ่มขึ้น 3.5% 0kdช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  แต่ลดลง -0.5% จากไตรมาสก่อนหน้า  โดยโซนที่ปรับราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ โซนสุขุมวิทตอนต้น ในระดับราคา 7.51 – 10 ล้านบาท รองลงมาคือโซนธนบุรี ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท และโซนลาดพร้าว-วังทองหลาง-บางกะปิ ในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาท

ส่วน2 จังหวัดปริมณฑล คือ สมุทรปราการ และนนทบุรี มีค่าดัชนีเท่ากับ 141.2 จุด ลดลง -0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง -0.2% จากไตรมาสก่อนหน้า  โดยดัชนีราคาห้องชุดของปริมณฑลยังเป็นทิศทางชะลอตัว เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงราคาลดลงต่อเนื่องกันถึง 5 ไตรมาส ซึ่งโซนที่ปรับราคาลดลง ได้แก่ โซนเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ อยู่ในระดับราคา 1.01 – 1.50 ล้านบาท รองลงมาคือ โซนเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด ในระดับราคา 2.01 – 3 ล้านบาท และโซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง อยู่ในระดับราคา 2.01 – 3 ล้านบาท

ขณะที่ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2566 มีค่าดัชนีมีค่าเท่ากับ 130.3 เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.2 แสดงให้เห็นว่าราคาที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดทุกไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2565 ถึงไตรมาส 4 ปี 2566

โดยเหตุผลสำคัญที่ทำให้ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจากต้นทุนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นจากปัจจัยหลายประการ เช่น ราคาที่ดิน ค่าวัสดุก่อสร้าง และค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้นล้วนมีผลโดยตรงต่อต้นทุนการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ที่ออกมาสู่ตลาดในปี 2565 – 2566 มีราคาเสนอขายเพิ่มขึ้นตามต้นทุนที่สูงขึ้น

ทั้งนี้เมื่อจำแนกดัชนีราคาบ้านจัดสรรตามพื้นที่ พบว่าโครงการจัดสรรใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.7 เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง -0.8% จากไตรมาส 3 ส่วนในพื้นที่ 3 จังหวัดปริมณฑล  คือ นนทบุรี ปทุมธานี และ สมุทรปราการ มีค่าดัชนีเท่ากับ 131.5  แต่เพิ่มขึ้น 1.3๔ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

โดยดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯและปริมณฑลช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา มีค่าดัชนีเท่ากับ 133.8 เพิ่มขึ้น 2.1%  และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกัน 6 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565 ถึงไตรมาส 4 ปี 2566 และเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.7 เพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า  เนื่องจกในช่วงปลายปีที่ผ่านมาสินค้าบ้านเดี่ยวมีการปรับลดราคาลง ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวที่มีราคาแพงมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป

สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีการลดราคาของบ้านเดี่ยวมากที่สุด คือ โซนราษฎร์บูรณะ-บางขุนเทียน-ทุ่งครุ-บางบอน-จอมทอง รองลงมาเป็นโซนลาดพร้าว-บางกะปิ-วังทองหลาง-บึงกุ่ม-สะพานสูง-คันนายาว และพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ