ตั้งแต่เด็กผมเห็นคุณพ่อ ซื้อที่ดิน เจรจาต่อรองมาตลอด พอโตขึ้นมาก็เห็นพี่ชาย  (คุณ ฮ้อ-ดลพิวัฒน์)พัฒนาโครงการอสังหาหลายสิบโครงการกระทั่งวันนี้ผมมาทำเอง” ... คุณกล้า-ภาคย์ธนา ปรีดาวิภาต เอ็มดี หนุ่มวัย 26 ปี ทายาทของ ดร.พิพัฒน์ ปรีดาวิภาต เล่าถึงจุดก่อกำเนิดในวงการอสังหาฯ ในนามบริษัทภาพัฒน์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด หรือ PAPUS  ถือเป็นอสังหาฯน้องใหม่ที่มีความแน่วแน่ในการเข้ามาในธุรกิจ และมีแบล็กอัพที่ดีจากธุรกิจเหล็ก “เล่าเป้งง้วน” ขณะที่อสังหาฯทำในนามบริษัทธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการ Sym Condo กับ Jade Townhome เป็นต้น

 

ต่อมุมมองตลาดอสังหาฯ:  ตลอดระยะเวลา 5 ปี    ที่ผ่านมา เกิดการขยายตัวของระบบคมนาคม อาทิ รถไฟฟ้าสายต่างๆ ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงมีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันราคาของที่ดินก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย และทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาของที่อยู่อาศัยมีการปรับเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ซึ่งบางครั้งอาจไม่สอดคล้องกับรายได้และความต้องการของผู้ซื้อ  ซึ่งนั่นเป็นที่มาในการแตกหน่อธุรกิจอสังหาฯใหม่ภายใต้ชื่อ  ภาพัฒน์ พรอพเพอร์ตี้   เป็นดีเวลลอปเปอร์ที่พร้อมตอบสนองต่อความต้องการของทุกไลฟ์สไตล์

 

โครงการชิเซน พัฒนาการ 32 ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “WELLBEING HOME” ซึ่งโดดเด่นด้วยศักยภาพของทำเลโซนพัฒนาการ ที่ตั้งอยู่ระหว่าง ย่านธุรกิจและที่อยู่อาศัยกลางเมืองอย่างทองหล่อและเอกมัย พร้อมดีไซน์ฟังก์ชั่นที่รองรับทุกการอยู่อาศัย ด้วยมูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท

 

 3 คีย์เวิร์ดสื่อถึงผู้บริโภคยุคพฤกติกรรมเปลี่ยน : เพราะด้วยพฤติกรรมการเลือกที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในปัจจุบัน ไม่ใช่เลือกเพียงแค่ราคาหรือทำเลเท่านั้น แต่ยังมองไปถึงฟังก์ชั่น ดีไซน์ สิ่งแวดล้อม ความมีเอกลักษณ์ และการเพิ่มมูลค่าในอนาคตอีกด้วย ดังนั้นคีย์ไฮไลท์ในการพัฒนาโครงการชิเซนฯ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชาวญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญในการชีวิตอย่างสมดุลกับธรรมชาติ โดยจุดเด่นของโครงการคือ ต้องการให้ทุกชีวิตภายในบ้านรู้สึกถึงความโปร่ง โล่ง สบาย ดังนั้นจึงได้นำประสาทสัมผัสทั้ง 5 มาเป็นคีย์เวิร์ดได้แก่

  • Life คือ สภาพแวดล้อมโครงการที่ดีและปลอดภัย
  •  Neat คือให้ผู้อยู่อาศัยใช้งานพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จัดวางพื้นที่ส่วนกลางทั้งภายในบ้านและในโครงการ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้
  •  และ Flow คือ การจัดวางห้องให้อากาศเกิดการหมุนเวียนอากาศโดยพึ่งพาเครื่องปรับอากาศน้อยที่สุด

โครงการ ชิเซน พัฒนาการ 32 ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ดับเบิลสเปซ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “WELLBEING HOME” นวัตกรรมการอยู่อาศัยจากญี่ปุ่น เพื่อให้ทุกชีวิตได้อยู่อย่างสมดุลย์กับธรรมชาติ มีทั้งหมดจำนวน 79 ยูนิต แบ่งเป็น เฟส 1 จำนวน 57 ยูนิต เฟส 2 จำนวน 22 ยูนิต บนพื้นที่โครงการรวมกว่า 8 ไร่ มูลค่ารวม 750    ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลที่สามารถเเชื่อมต่อถนนพัฒนาการ, อ่อนนุช, พระรามเก้า, สุขุมวิท, เอกมัย และแหล่งไลฟ์สไตล์สุดฮิตอย่าง ทองหล่อ อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ ทั้ง ร้านอาหาร, แหล่งช็อปปิ้ง, สถานศึกษาชื่อดัง, โรงพยาบาลชั้นนำ เป็นต้น

ตัวบ้านตั้งอยู่พื้นที่ 21.3 ตารางวา (ตร.ว.) มีพื้นที่ใช้สอย 210 ตารางเมตร(ตร.ม.) พร้อม Double space design พิเศษด้วย Double volume กับฝ้าเพดานสูงถึง 5.35 เมตร ด้านหน้ากว้างถึง 5.5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน สิ่งอำนวยสะดวก อาทิ สโมสร, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมหัวเจ็ทว่ายทวนน้ำ, ห้องประชุม Coworking space ส่วนกลาง,สวนพักผ่อน และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ราคาขาย 7.59  ล้านบาทเริ่มก่อสร้างเดือนเมษายน 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จบางส่วนประมาณเดือนธันวาคม 2561

 

“จุดแข็ง”จับตลาดเล็ก-โปรดักส์รองรับทุกลุ่มเป้าหมาย : ด้านกลยุทธ์ทางการตลาด คุณกล้า-ภาคย์ธนา มั่นใจว่า โครงการนี้ บริษัทฯ ได้มองกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งกลุ่มวัยกลางคนที่กำลังเริ่มต้นครอบครัวใหม่ หรือมีครอบครัวใหญ่ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ (New gen) ที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี ดังนั้นเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงาน บริษัทฯ เน้นสร้างการรับรู้ผ่านสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ โดยกว่า 50% จะเป็นการสื่อสารผ่านสื่อดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เนื่องจากเป็นช่องทางสำคัญที่สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังสะดวกในการค้นหาข้อมูลโครงการ

 

พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมทางการควบคู่ไปด้วย โดยในวันที่ 24 -25 มีนาคมนี้ จะมีงาน “Open House Shizen Phattanakarn 32” เพื่อเปิดบ้านตัวอย่าง Harmonius Townhome Design Double Space ราคา 7.59 ล้านบาท เพียง 2 วันเท่านั้น

 

ด้วยการที่เน้นจับตลาดขนาดเล็กแต่อยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ในราคาที่จับต้องได้ สามารถเพิ่มมูลค่าและความคุ้มค่าในอนาคตโดยเมื่อตอนต้นปีได้ทำการพรีลอนช์ ปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ 35% โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายทั้งหมดที่ 80% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2562 พร้อมกับตั้งป้าเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ ต่อปี รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท