แสนสิริเตรียมเปิดตัว “เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ”มูลค่า 6,500 ล้านบาท มั่นใจซัพพลายในพื้นที่เหลือน้อยมาก คาดปิดการขายภายในปี62 จ่อเปิดโครงการใหม่ทำเลเดิมอีกอย่างน้อย 1-2 โครงการ

นายปิติ จารุกำจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือSIRI เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดลักชัวรี่ในกทม.ว่าในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา ยังมีอัตราการเติบโตของดีมานด์อย่างต่อเนื่องถึง30% เพราะคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง เริ่มมองหาที่อยู่ย่านใจกลางเมืองมากขึ้น และไม่ห่างไกลจากที่อยู่อาศัยเดิม โดยทำเลทองหล่อถือเป็นย่านที่ลูกค้ามีความต้องการและมีกำลังซื้อสูง แต่ที่ดินหามาพัฒนาได้ยากมาก จากข้อมูลของบริษัท พลัสพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พบว่าในช่วง3ปีที่ผ่านมาหลังจากที่บริษัทซื้อที่ดินมาในราคา 1 ล้านบาท/ตารางวา ปัจจุบันราคาขายปรับขึ้นสูงถึง 200% หรือ 2 ล้านบาท/ตารางวา หรือปรับขึ้นมาปีละเกือบ 30%

 

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ประสบความเร็จจากการพัฒนาโครงการ “เดอะโมนูเมนต์ สนามเป้า” คอนโดมิเนียมแบรนด์ดังกล่าวโครงการแรกย่านพหลโยธินเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัว“THE MONUMENT THONG LO” (เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ)คอนโดมิเนียม ระดับลักซ์ชัวรี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ หลัก ‘The Monument to Generations’ (เดอะ โมนูเมนต์ ทูเจเนอเรชั่น) ภายใต้การร่วมทุนกับ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือBTS ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ เป็นคอนโดฯสูง 45 ชั้น ขนาด 124.25-662 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 300,000 บาท/ตารางเมตร หรือ 30 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 127 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 6,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% (ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าโครงการเดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า ประมาณ 20,000-30,000 บาท) และจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 14-15 กรกฎาคม 2561 คาดว่าภายใน 2 วันนี้จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 2-4 ยูนิต หรือประมาณ 200 ล้านบาทพิเศษ

สำหรับลูกค้าที่จองห้องชุดในโครงการภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ด้วยการมอบทีวีแบรนด์ Bang & Olufsen รุ่นBEOVision 14 มูลค่ากว่า 600,000บาท โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ที่50% โดยลูกค้าเป็นคนไทยเกือบ100% หากคอนโดฯแล้วเสร็จราคาก็จะปรับขึ้นตามสภาพตลาด ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะปรับขึ้นมาเท่าไหร่ และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปี 2562 ด้านการก่อสร้างขณะนี้คืบหน้าแล้วกว่า 70% ซึ่งสามารถพร้อมโอนได้ภายในต้นปี2562

 

“ผู้ที่เคยพักอาศัยในแถบนี้และต้องการขยับขยายครอบครัวในพื้นที่ใกล้เคียงกับครอบครัวเดิม ทำเลนี้จึงเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่มาอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตของราคาที่ดินในอัตราสูงมาก และแทบจะไม่มีพื้นที่ว่างติดถนนหลงเหลือสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ อีกแล้วในปัจจุบัน โดยโครงการนี้เป็นสถาปัตยกรรมอาคารสูงรูปทรง“Monolith” (โมโนลิธ) ซึ่งมีเอกลักษณ์อยู่ที่รูปทรงตึก ที่สูงตรงตั้งตระหง่าน โดยสัดส่วนระหว่างความกว้างของฐานอาคารต่อความสูงของอาคารอยู่ที่ 1:10 ที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในทองหล่อ อีกทั้งยังมอบความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตที่มีเพียง 127 ยูนิต โดยแต่ละชั้นจำกัดที่ไม่เกิน 4 ยูนิต ”นายปิติ กล่าว

ปัจจุบันซัพพลายคอนโดฯในทองหล่อ รูปแบบและราคาใกล้เคียงกับ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ มีซัพพลายเพียงแค่โครงการเดียว ราคาขายอยู่ที่ 320,000-330,000 บาท/ตารางเมตร ปัจจุบันโครงการดังกล่าวนั้นเหลือขายเพียงไม่ถึง 10 ยูนิต

นายปิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมีแผนที่จะพัฒนาโครงการบนถนนทองหล่อใหม่อีกอย่างน้อย 1-2 โครงการ ซึ่งได้ซื้อที่ดินมาแล้วในอยู่ทำเลโซนปลายถนนทองหล่อ 1 แปลง ซึ่งจะพัฒนาในอนาคต และในสัปดาห์หน้าบริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ “XT” ที่มอบประสบการณ์และสภาพแวดล้อมในการพักอาศัยที่ไม่เหมือนใคร เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่มีอายุระหว่าง 28-35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในปัจจุบัน พร้อมจุดเด่นของแบรนด์ XT ในเรื่องของการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถใช้ร่วมกันได้ ตามแนวคิดของ co-sharing facilities รวมถึงให้ห้องแบบ fully furnished ที่สามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ได้ตามลักษณะความต้องการเฉพาะบุคคลครับโดยมีการพัฒนาบน 3 ทำเล ได้แก่ เอกมัย พญาไท และห้วยขวาง มูลค่าโครงการรวม 21,000 ล้านบาท