BUTLER เปิดตัวแอปพลิเคชั่น-ซอฟต์แวร์สาย Urban Tech หน้าใหม่ มุ่งตอบโจทย์ครอบคลุม B2B-B2C เชื่อมโยงนิติบุคคล-บริการ-ผู้อยู่อาศัย-ชุมชน เข้าหากันแบบครบวงจร อำนวยความสะดวกการใช้ชีวิต 24 ชั่วโมง เผยเตรียมเดินหน้าหาพันธมิตรสตาร์ทอัพ-นักลงทุนต่อเนื่อง มุ่งเป้าขึ้นแท่น Urban Tech เบอร์หนึ่งเอเชีย

 

 

 

นายวรกร วีราพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิตอล บัตเลอร์ จำกัด หรือ BUTLER เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตในเมือง (Urban Tech) ขึ้นภายใต้ชื่อ BUTLER เป็นแพลทฟอร์มด้านการจัดการชุมชนและสังคม (Community Management Platform) แบบครบวงจร มีจุดมุ่งหมายในการแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัยและผู้อยู่อาศัย

 

“ที่ผ่านมาในตลาดส่วนใหญ่จะพัฒนาเทคโนโลยีด้านการใช้ชีวิต หรือ Living Tech เพื่อตอบโจทย์ด้านธุรกิจต่อผู้บริโภค หรือ B2C เป็นหลัก แต่สำหรับเรามุ่งเป้าจะเป็นผู้พัฒนาแพลทฟอร์มที่ตอบโจทย์อย่างครบวงจร ช่วยเหลือตั้งแต่ฝั่งธุรกิจต่อธุรกิจ หรือ B2B ไปจนถึงฝั่ง B2C” นายวรกร กล่าว

 

ทั้งนี้ นิติบุคคล จำนวนมาก ต่างมี Pain Point ในการบริหารจัดการดูแลผู้อยู่อาศัย เพราะมีจำนวนปริมาณงานที่มากและหลากหลาย มีรายละเอียดที่ต้องคอยติดตาม ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้อยู่อาศัยในโครงการเองก็มี Pain Point จากการได้รับการบริการล่าช้า ขาดการบริการที่ครบวงจร ขาดโอกาสในการปฏิสัมพันธ์กับชุมชนและนิติบุคคลโครงการของตัวเอง แพลทฟอร์มของ BUTLER จึงเป็นตัวที่จะมาช่วยใน 3 ส่วน ได้แก่ 1.Connect เชื่อมโยงภาคธุรกิจกับชุมชนเข้าด้วยกัน 2.Convenience สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ทั้งฝั่งโครงการและฝั่งผู้อยู่อาศัย และ 3.Create สร้างโอกาส ชุมชน และสังคมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น และอำนวยความสะดวกของการใช้ชีวิตในเมืองแบบ 24 ชั่วโมงให้จบได้ภายในแอปเดียว

 

 

สำหรับฟังก์ชั่นต่างๆ ของ BUTLER นั้น จะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Property Management) สำหรับนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อ “BUTLER PROPERTY MANAGEMENT PLATFORM” เป็นซอฟต์แวร์เชื่อมโยงนิติบุคคลกับผู้อยู่อาศัยในโครงการ พนักงาน ตลอดจนบริการของพันธมิตร มีฟังก์ชันตั้งแต่การดูและจัดการตารางกิจกรรมภายในของนิติบุคคล การใช้พื้นที่ส่วนกลาง ภาพรวมแผนงบประมาณ แจ้งค่าน้ำค่าไฟ รับแจ้งซ่อม รับแจ้งปัญหา บริหารจัดการ แชทคุยกับผู้อยู่อาศัย บริหารจัดการพนักงาน ตลอดจนดูตารางงานของพันธมิตรที่เข้ามาทำงานในพื้นที่โครงการ เริ่มเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ (Soft Launch) แล้ว ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

 

ระยะที่ 2 บริการการจัดการชุมชนและสังคมสำหรับผู้อยู่อาศัย ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงกับนิติบุคคลและชุมชนโดยรอบได้ง่ายผ่านบริการหลากหลายฟังก์ชัน ทั้งบริการแม่บ้าน บริการซักอบรีด บริการดูแลรักษาบ้าน บริการดูแลรักษารถ บริการเช่ารถ ช้อปปิ้ง สั่งอาหารและเครื่องดื่มทั้งในชุมชนตัวเองและร้านอาหารชื่อดังในพื้นที่อื่น คาดว่าจะเปิดตัวบริการเหล่านี้ได้ทั้งหมดภายในเดือนตุลาคมนี้


 

ระยะที่ 3 การสร้างระบบนิเวศชุมชนและบริการจัดการชุมชนเต็มรูปแบบ บริษัทจะจับมือทั้งพันธมิตรสตาร์ทอัพ พันธมิตรร้านค้าในชุมชนต่างๆ รวมถึงพันธมิตรสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเชื่อมโยงกับสินค้าและบริการต่างๆ ในชุมชนได้ง่ายๆ และสะดวกสบาย ตลอดจนสามารถชำระค่าบริการต่างๆ ได้ภายในแอปเดียว นอกจากนี้ จะสร้าง Community Media ที่บุคคลภายในโครงการสามารถติดต่อสื่อสาร รวมถึงซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้

 

นายวรกร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน บริษัทได้เริ่มจับมือพันธมิตรแล้วหลายราย อาทิ Seekster, Fixzy, Helpdee, Betagro, JP Insurance และยังคงเปิดรับโอกาสในการร่วมมือกับพันธมิตรทางกลยุทธ์ (Strategic Partner) ตลอดจนสตาร์ทอัพใหม่ๆ ในหลากหลายธุรกิจและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการผู้บริโภคได้อย่างครบวงจร

 

“เราไม่ได้ทำงานคนเดียว และไม่ได้พัฒนาแพลทฟอร์มนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นคู่แข่งใคร แต่เราจะจับมือพันธมิตรต่างๆ เช่น ด้านโลจิสติกส์ ด้านการบริการช่างซ่อมบำรุง ด้านค้าปลีก และทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งาน โดยบริการของเราสามารถช้ได้ฟรีทั้งฝั่งนิติบุคคลและฝั่งผู้อยู่อาศัย” นายวรกร กล่าว

 

 

นายวรกร กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน มีนิติบุคคลโครงการที่อยู่อาศัยเข้าใช้แพลทฟอร์มของแล้วประมาณ 100 โครงการ และมีผู้เข้าใช้งานเป็นประจำ (Active Users) ราว 50,000 คน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีนิติบุคคลโครงการต่างๆ เข้าใช้งานจำนวน 500 โครงการ และมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไม่น้อยกว่า 1 แสนดาวน์โหลด

 

นอกจากนี้ บริษัท ตั้งเป้าว่าภายใน 2 ปี จะมีการขยายสเกลการให้บริการไปสู่ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการร่วมมือกับผู้ประกอบการในประเทศเหล่านั้น เช่น Property Management, Property Developer, Service Provider โดยอาจเริ่มต้นจากประเทศที่มีวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน เช่น เวียดนาม ภายหลังจากปี 2563 บริษัทจะขยายบริการไปสู่ระดับเอเชีย พร้อมทั้งมุ่งมั่นพัฒนาบริการของ BUTLER ให้กลายเป็นเทคโนโลยีด้านการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในเมือง (Urban Tech) อันดับ 1 ของเอเชีย