เนอวานาฯดึงกลุ่ม “ไดวะ เฮาส์ กรุ๊ป”ร่วมทุนผุดโครงการ “เนอวานา บียอนด์ กรุงเทพกรีฑา”1ใน11โครงการบนอาณาจักร 250 ไร่ ย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ มูลค่า 2,600 ล้านบาท ทั้งขยายฐานลูกค้าผนึกแลนด์ลอร์ดอุดรธานีผุดบ้านหรู ราคา 20-50 ล้านบาท มั่นใจดีมานด์ตอบรับดีสวนกระแสเศรษฐกิจ พร้อมเปิดตัวทั้ง 2 โปรเจกต์ธ.ค.61 นี้  ระบุยอดขายปีนี้เกินเป้า3,000 ล้านบาท

 

นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ NVD  บริษัทในเครือ บริษัทสิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรุงเทพฯมีการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง มีทำเลเกิดใหม่หลายแห่งและทำเลใหม่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ คือ ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางกรุงเทพด้านตะวันออกประมาณ 15 กิโลเมตร และห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 9 กิโลเมตร เท่านั้น ทำเลนี้ เริ่มมีมูลค่าสูงขึ้นและเป็นที่สนใจของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ามาจับจองที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ รวมถึงเนอวานา ไดอิฯด้วย  ซึ่งมีแผนนำที่ดิน 250 ไร่ มาพัฒนาในรูปแบบของสมาร์ทซิตี้ ที่ประกอบไปด้วยที่พักอาศัย ศูนย์การค้า ศูนย์กีฬาฯลฯ รวมมูลค่าโครงการกว่า 33,000 ล้านบาท  เป็นการพัฒนาทั้งหมด 11 โครงการ แบ่งเป็นที่พักอาศัย 9 โครงการ และธุรกิจเชิงพาณิชย์ 2 โครงการ

 

ล่าสุดได้นำที่ดิน จำนวน 27 ไร่ จากทั้งหมด 250 ไร่ ร่วมทุนกับบริษัท ไดวะ เฮาส์ กรุ๊ป (Daiwa House Group) ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่แรกของประเทศญี่ปุ่น จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โอซาก้า จัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา ภายใต้ชื่อ บริษัท เนอวานา ไดวะ ดิเวลลอปเมนต์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 421 ล้านบาท  โดยทั้งสองฝ่ายถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ 49:49 และที่เหลืออีก 2% ถือหุ้นโดย บริษัท คลังสินค้า นานากิจ จำกัด ในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ ภายใต้แบรนด์ “เนอวานา บียอนด์ กรุงเทพกรีฑา” ขนาดตั้งแต่ 55-170 ตารางวา ราคา 20-50 ล้านบาท จำนวน 85 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวโครงการในเดือนธันวาคม 2561 นี้ และคาดว่าจะสามารถเริ่มโอนได้ในไตรมาส2/2562

 

 

“การร่วมทุนกับกลุ่มไดวะฯในครั้งนี้ เพราะต้องการนำโนว์ฮาวมาใช้ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนระยะยาว แต่ไม่ใช่การพัฒนาโครงการในพื้นที่ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ทั้งหมด”นายศรศักดิ์ กล่าว

 

นายศรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้บริษัทฯยังได้เข้าไปร่วมทุนกับแลนด์ลอร์ดที่ดิน ที่จ.อุดรธานี ซึ่งดำเนินในการหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจโรงแรม แต่ไม่เคยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย บริษัทฯจึงเข้าไปบริหารงานตั้งแต่รับสร้างแบรนด์,การทำตลาด และเป็นBrand Owner ด้วยการนำที่ดินสะสมบริเวณหนองประจักษ์ จำนวน 10 ไร่ มาพัฒนาภายใต้แบรนด์ “เนอวานา บียอนด์ อุดรธานี”เป็นบ้านเดี่ยว สูง 3 ชั้น ขนาด 57 ตารางวาขึ้นไป จำนวน 40 ยูนิต ราคา 20-50 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการขายแบบแยก 2 สัญญา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

“การที่เราไปทำการตลาดให้แลนด์ลอร์ดรายนี้ จะทำให้ที่ดินมีมูลค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น และเราก็ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงด้วย และด้วยราคาขายที่เทียบเท่ากับในกทม.หลายคนอาจมองว่าจะขายได้หรือไม่นั้น ผมมั่นใจว่าแม้ว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี แต่ดีมานด์ที่นี่ตอบรับดีมาก เพราะว่าอุดรธานีถือเป็นฮับด้านการค้าของภาคอีสานมีชายแดนติดกับสปป.ลาว ที่เศรษฐีลาวมาใช่บริการโรงพยาบาล ซึ่งมีรองรับถึง 5 แห่ง เป็นจำนวนมาก และราคาที่ดินที่อุดรฯก็ไม่ถูกมาก โดยเฉพาะย่านหนองประจักษ์ ราคาหลักแสนบาทต่อตารางวา”นายศรศักดิ์ กล่าว

 

สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวอีก 1-2 โครงการ ได้แก่ คอนมิเนียมบนถนนอิสรภาพ ห่างจากโรงพยาบาลศิริราชเพียง 750 เมตร จำนวนประมาณ 200 ยูนิต ราคาตารางวาละ 1 แสนต้นๆ ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่เปิดตัว แต่มีสถาบันการเงินแสดงความต้องการ ขอซื้อ 2-3 รายๆละ 50 ยูนิต เพื่อให้กลุ่มลูกค้าของตนเอง  ส่วนอีก 1 โครางการอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ใกล้สถานีบางรักใหญ่ ซึ่งมีที่ดินกว่า 4 ไร่ รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินในเมืองอีก 1 แปลงเพื่อพัฒนาคอนโดฯ

 

นายศรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2562 บริษัทฯมีแผนที่จะพัฒนาโครงการของตนเองอีกประมาณ 4 โครงการ และการดำเนินการในรูปแบบกับที่จ.อุดรธานี อีก 3 โครงการ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 2 โครงการ และต่างจังหวัดทางภาคตะวันออก 1 โครงการ ขณะนี้กำลังพิจารณาเลือกทำเลอยู่ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

อย่างไรก็ตามในปี2561 นี้ บริษัทคาดว่ายอดขายจะเกินเป้าที่ตั้งเป้า 3,000 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส3 บริษัทฯสามารถทำยอดขายได้ตามเป้า 3,000 ล้านบาทที่วางไว้แล้ว และคาดว่าจะรับรู้รายได้ที่ 2,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 20%