ย่านรามคำแหง ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ โดยมีถนนรามคำแหงเป็นถนนสายหลักที่เกิดขึ้นมายาวนานตั้งแต่ช่วงแรกของการขยายเมืองซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนสำคัญหลายสาย ทั้งถนนเพชรบุรี ถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดีพนมยงค์) ถนนพระราม 9 รวมทั้งเรือโดยสารเส้นทางคลองแสนแสบที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือก จึงทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวก และเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพใจกลางเมืองกับพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเข้าด้วยกัน

อนาคตการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ที่ปัจจุบันมีความคืบหน้า 64.21% เร็วกว่าแผนงาน 2.96% (ข้อมูล ณ 8 กรกฎาคม 2563)  จะกลายเป็นทางเลือกสำคัญของการเดินทาง จึงเป็นแรงส่งและตัวเร่งที่ทำให้เกิดการพัฒนาคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นบนเส้นรามคำแหง ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทั้งราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยในย่านรามคำแหงมีราคาสูงขึ้น จากสถิติ 10 ปี ราคาที่อยู่อาศัยในย่านรามคำแหงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละ 8% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ถือเป็นเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าอีกสายที่สร้างความเปลี่ยนแปลงต่ออสังหาริมทรัพย์และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากที่จะมาเป็นตัวแปรสำคัญของการพลิกโฉมย่านรามคำแหงที่จากที่เคยเป็นสู่การเติบโตครั้งใหม่

หากพูดถึงรามคำแหง ภาพที่ตามมาคือมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ถือเป็นจุดศูนย์กลางของย่านนี้และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พื้นที่ในย่านนี้เกิดการขยายตัวนอกจากมหาวิทยาลัยแล้วยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) วัดเทพลีลา รวมทั้งมัสยิดอีกจำนวนมาก ด้วยเดิมทีนั้นพื้นที่ย่านรามคำแหงมีคนไทยจากทางภาคใต้ที่เข้ามาอยู่ในทำเลนี้เป็นจำนวนมากทั้งค้าขาย เรียนหนังสือ และทำงาน

ใจกลางของรามคำแหงยังคงเป็นโซนใกล้มหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์กลางสำคัญของการใช้ชีวิตและแหล่งไลฟ์สไตล์ที่รายล้อมไปด้วยร้านค้ารายย่อย ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่างเดอะมอลล์รามฯที่ปัจจุบันกำลังปรับปรุง หอพัก อพาร์ทเมนท์ให้เช่าจำนวนมาก รองรับความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตในย่านรามคำแหงแห่งนี้ การเกิดโครงการคอนโดมิเนียมที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงมีไม่มากนักด้วยที่ดินที่ค่อนข้างหายากและราคาที่ดินติดถนนใหญ่ปัจจุบันที่มีราคาสูงกว่า 350,000 บาทต่อตารางวา ทำให้การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใกล้กับมหาวิทยาลัยค่อนข้างทำได้ยากพอสมควร เนื่องจากราคาที่ดินที่มีราคาสูงวัตถุดิบหลักชิ้นแรกและชิ้นสำคัญต่อการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมทำให้การเปิดขายโครงการใหม่จะมีราคาสูงตามมาด้วยซึ่งอาจยังไม่ตอบโจทย์กลุ่มตลาดในระแวกโดยรอบมากนัก คาดการณ์ว่าโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในทำเลที่ติดกับถนนใหญ่ในช่วงปี 2563 เป็นต้นไป จะมีราคาขายสูงกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร

ทำเลไข่แดงที่เป็นเสมือน Rare Item ของที่ดินในย่านรามคำแหง ที่ทางบริษัท AssetWise ได้ที่ดินมาเมื่อปี 2018 จาก 3 เจ้าของเดิม ที่เคยเป็นอาคารพาณิชย์และหอพักในรุ่นแรกๆ ใช้เวลากว่า 2 ปีในการศึกษาข้อมูลและพร้อมเปิดคอนโดมิเนียมโครงการใหม่บนทำเลไข่แดงย่านรามคำแหง ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมแห่งแรกและแห่งเดียวที่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยรามคำแหง ใจกลางรถไฟฟ้าสถานีรามคำแหง ที่ปักธงเป็นแลนด์มาร์คภายใต้ชื่อ Modiz Rhyme Ramkhamhaeng (โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง)

สานต่อความสำเร็จของแบรนด์ “MODIZ (โมดิซ)” ที่เปิดมาแล้วถึง 6 โครงการ ตั้งแต่ปี 2013 ได้แก่ โมดิซ ลาดพร้าว 18 , โมดิซ สเตชั่น , โมดิซ อินเตอร์เชนจ์ , โมดิซ รัชดา 32 , โมดิซ สุขุมวิท 50 และ โมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ ก้าวสู่ปีที่ 7 กับโครงการที่ 7 ในปี 2020 โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง Modiz Rhyme Ramkhamhaeng คอนโดมิเนียมไฮส์ไรส์ 30 ชั้น 1 อาคาร บนพื้น 2 ไร่กว่า 546 ยูนิต และ ไลฟ์สไตล์ รีเทล มูลค่าโครงการรวม 1,790 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* เฉลี่ยต่อตารางเมตร 95,000 บาท*

Project Info

Project Name : Modiz Rhyme Ramkhamhaeng (โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง)

Developer : AssetWise PLC.

Location : Ramkhamhaeng Road

Project Type : 1 Residential Building 30 Storey / Lifestyle Retails

Project Area : Approximately 2-3-0 Rai*

Total Unit : 546 Residential Unit, 9 Shops

Parking : 285 Car (51.35%)

Start Price : 1.89 MB. Fully Furnished

Completion Date : May 2023

กว่าจะเป็น “Modiz Rhyme Ramkhamhaeng” 

ชื่อของ “Rhyme” อันหมายถึง คำที่มีเสียงสอดคล้อง เสียงสัมผัสของบทกวี ออกเสียงว่า ไรห์ม คล้ายกับย่านราม (รามคำแหง) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการฯ รวมทั้งความสอดคล้องที่ไม่ใช่เพียงแค่การอยู่อาศัย แต่รวมถึงการการใช้ชีวิตทั้งหมดในโครงการแห่งนี้ จึงถูกหยิบยกนำมาใช้ ในชื่อ “Modiz Rhyme Ramkhamhaeng (โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง)” คอนโดมิเนียมแห่งแรกและแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่เป็นเสมือนทำเลไข่แดงของที่ดินในย่านนี้

การออกแบบโครงการได้แรงบันดาลใจจากความเป็นเมือง Metropolitans ของกรุงเทพฯซึ่งเป็น 1 ในเมืองหลวงมหานครของโลกที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา สะท้อนการออกแบบผ่านเส้นตรงแนวตั้ง…ผสานต่อเนื่องกับ Landscape และ Interior อย่างกลมกลืน เพื่อร้อยเรียงเรื่องราวความต่อเนื่องกัน โดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นสำคัญที่สอดรับกับความต้องการของคนรุ่นใหม่

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ เศรษฐกิจ การดำเนินชีวิต และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของการอยู่อาศัยทำให้โครงการฯใช้หลักการพัฒนาภายใต้แนวคิด The Next Normal Living โดยนำเทคโนโลยีและสิ่งใหม่ๆที่ผสมผสานกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไปมาต่อยอดและสร้างความสมบูรณ์ ผ่านแนวคิด 3 ด้าน
1 Multi Living Space New Normal เพิ่มคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยด้วยการสรรสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและความหลากหลายเพื่อทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต
2 Residence Utilization ยกระดับการอยู่อาศัยให้ครอบคลุมทุกการใช้ชีวิตด้วยการมีสุขภาพที่ดี
3 Virtual Community ทำให้เกิดความสะดวกสบายผ่านการใช้เทคโนโลยีและแอปพลิเคชั่นที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน

สะท้อนเอกลักษณ์รามฯ ผ่าน 5 Synchronize

รามคำแหงทำเลที่รายล้อมและพร้อมไปด้วยทั้งศักยภาพทำเล ความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องของอาหารการกินและความเป็นอยู่ จึงเป็นเสมือนจุดเชื่อมต่อของการใช้ชีวิตที่ลงตัว โครงการจึงดึงเอกลักษณ์ของย่านรามคำแหงและวิถีการใช้ชีวิตสู่การออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Synchronize Your Living เชื่อมต่อทุกจังหวะชีวิต…ที่เป็นคุณ” ผ่าน 5 Synchronize

1 Synchronize Your Connectivity เชื่อมต่อการเดินทางแบบไร้รอยต่อสู่ทุกจุดมุ่งหมาย ด้วยการเดินทางที่สะดวกใกล้ถนนใหญ่สายสำคัญที่สามารถเชื่อมต่อกับจุดย่านธุรกิจ และยังมีเรือโดยสารที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถเข้าสู่ย่านประตูน้ำได้สะดวกและประหยัดเวลา รวมถึงรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตถือเป็นตัวเลือกสำคัญของการเดินทางโดยโครงการอยู่ใจกลางสถานีรามคำแหงที่เป็นเสมือนทำเลไข่แดงเลยก็ว่าได้

2 Synchronize Your Live-Work-Play Lifestyle เชื่อมต่อการใช้ชีวิตด้วยความลงตัวด้วย Lifestyle Retails และ Facilities ของโครงการที่รองรับการใช้ชีวิตในทุกวัน

3 Synchronize Your Well-Being เชื่อมต่อชีวิตด้วยสุขภาวะและมาตรฐานการดูแลสุขภาพที่ดีในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นระบบO2 Generator ภายใน The Rhyme Lobby และ The Cloud Gym เพื่อให้ลูกบ้านได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ ระบบกรองอากาศPM2.5 เครื่องกรองน้ำที่ถูกติดตั้งมาพร้อมกับห้องพักอาศัย รวมทั้ง Health Station ที่ทางบริษัทฯร่วมมือกับรพ.เปาโล และ รพ.สมิตเวช ที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาด้วยความเข้าใจและใส่ใจลูกบ้านอย่างแท้จริง

4 Synchronize Your Investment เชื่อมต่อย่านแห่งการลงทุน ด้วยรามคำแหงเป็นทำเลที่เติบโตขึ้นในทุกวันศักยภาพของทำเลมีพัฒนาการและเปลี่ยนแปลงไปโดยราคาที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวสูงขึ้นราว 8%-10% ชี้ให้เห็นถึงอนาคตที่บ่งบอกได้ว่ารามคำแหงถือเป็นเป้าหมายของการลงทุนและปล่อยเช่าที่คุ้มค่า โครงการฯมีบริการรับฝากขายและฝากเช่าผ่านบริษัท แอสเซท เอ พลัส (Asset A Plus) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการปล่อยเช่าที่พักอาศัยอีกด้วย

5 Synchronize Your Smart Living เชื่อมต่อกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้อยู่อาศัยในยุคดิจิตัลที่ผ่านการใช้งานแอปพลิเคชั่นเพียงแค่ปลายนิ้วก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของการใช้ชีวิต

33cc51f41cf695cf41133853d419cd84.gif

การเดินทาง

  • MRT รามคำแหง : 80 ม.
  • ท่าเรือรามคำแหง : 500 ม.
  • ท่าเรือวัดเทพลีลา : 1.1 กม.
  • ทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา ด่านประชาอุทิศ(ไปดินแดง) : 4 กม.

ห้างสรรพสินค้า

  • Big C รามคำแหง : 750 ม.
  • The Mall รามคำแหง : 1.2 กม.
  • Foodland รามคำแหง : 1.6 กม.
  • The Mall บางกะปิ : 3.8 กม.
  • The Nine พระราม 9 : 4.5 กม.
  • Central พระราม 9 : 6.4 กม.

สถานศึกษา

  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง : 290 ม.
  • มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ : 1.9 กม.
  • รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) : 1.8 กม.
  • รร.อุดมศึกษา สถาบันบัณฑิตยพัฒนบริหารศาสตร์ (Nida) : 5.1 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.รามคำแหง : 2.1 กม.
  • รพ.เวชธานี : 3.9 กม.
  • รพ.สมิติเวช (ศรีนครินทร์) : 6.1 กม.

 

" width="600" height="450" frameborder="0" style="border:0" allowfullscreen>

ความน่าสนใจ การลงทุนของโครงการ

รามคำแหงทำเลที่เจริญเติบโตมาอย่างยาวนานกำลังจะกลับมามีสีสันสู่การพลิกโฉมครั้งสำคัญของย่านรามคำแหงจากที่เคยเป็นให้เจริญเติบโตยิ่งขึ้นด้วยรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ที่พาดผ่านบนทำเลแห่งนี้ จะเห็นได้ว่าพื้นที่ในย่านรามคำแหงมีการปรับปรุงไปมากเริ่มตั้งแต่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์รามฯ สู่วิถีการอยู่อาศัยที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นบนถนนรามคำแหงรองรับอนาคตที่กำลังจะเติบโต โดยเฉพาะพื้นที่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่เป็นศูนย์กลางของย่านฯและความเจริญที่เกิดการขยายตัว ทำให้พื้นที่เป็นเสมือนทำเลไข่แดงที่หาที่อยู่อาศัยได้ค่อนข้างยากเนื่องจากรายล้อมไปด้วยอาคารเก่าและหอพักในรุ่นแรกๆ การเกิดคอนโดมิเนียม โครงการ Modiz Rhyme Ramkhamhaeng จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยที่ตั้งของโครงการฯตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยรามฯและอยู่ใจรถไฟฟ้าสถานีรามคำแหงที่เป็นพื้นที่ Rare Item เพียงแห่งเดียวในย่านรามคำแหง

การซื้อลงทุนในระยะสั้น อาจจะไม่ได้เห็นผลอย่างชัดเจนมากเท่าที่ควรแม้จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นใหม่จำนวนมากในย่านรามคำแหง แต่ด้วยตลาดในย่านนี้กลุ่มลูกค้ายังไม่คุ้นชินกับการลงทุนในคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าหรือเก็งกำไรมากนัก และพื้นที่ในย่านรามคำแหงเองก็ยังคงรอวันเติบโตอย่างสมบูรณ์จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มฯและศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่างเดอะมอลล์รามคำแหง 2 ที่กำลัง Renovate รวมทั้งหอพักที่ยังคงมีราคาถูกกว่าตามสภาพและอายุของอาคาร

การซื้อไว้เพื่อเป็นการลงทุนในระยะยาว ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่าด้วยทำเลที่ยังรอวันเติบโตอย่างสมบูรณ์การซื้อคอนโดมิเนียมเพื่ออนาคตในย่านรามคำแหงมีแนวโน้มของการเติบโตที่ดีมาก รถไฟฟ้าสายสีส้มฯไม่เพียงแต่ Feeder คนกรุงเทพฝั่งตะวันออกเข้าสู่พื้นที่ใจกลางเมืองเท่านั้นแต่ยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้ที่ดินและที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบัน Capital Gain อยู่ที่ 8% ราคาค่าเช่าเฉลี่ยระหว่าง 10,000-12,000 บาทต่อเดือน และจะเติบโตขึ้นอีกราว 3%-4% เมื่อรถไฟฟ้าสายสีส้มฯเปิดให้บริการ นอกจากนี้อาจส่งผลให้ย่านรามคำแหงกลายเป็นพื้นที่ Next CBD ด้วยโครงการต่างๆที่อยู่ในย่านนี้จะถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการไล่เลี่ยกันกับรถไฟฟ้าฯ

มุมมองด้านการซื้อเพื่ออยู่อาศัย ทำเลรามคำแหงยังคงเป็นพื้นที่ที่มีดีมานด์ค่อนข้างสูง รวมทั้งความสะดวกของการเดินทางจากปัจจุบันรวมถึงอนาคต ความครบครันของการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ในย่าน สำหรับการอยู่อาศัยแล้วเป็นทำเลที่น่าสนใจและตอบโจทย์การใช้ชีวิต โครงการฯคิดและออกแบบมาเพื่อรองรับวิถีชีวิตในรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลง ใส่ใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นอกเหนือจาก New Normal แต่โครงการมองไกลถึง The Next Normal Living พื้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริงและเป็นสัดส่วนโดยโครงการให้ความสูงของห้องสูงถึง 2.7 เมตร ไม่ได้มีมากนักในตลาดคอนโดมิเนียม Facilities หรือส่วนกลางที่ให้มากกว่าเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่มีเพียง 546 ยูนิต มั่นใจได้ว่าการซื้อเพื่ออยู่อาศัยที่นี่จะค่อนข้างสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความพร้อมของทำเล การเดินทางและฟังก์ชันของห้องพักที่ถูกคิดและออกแบบโดยยึดผู้บริโภคเป็นหัวใจสำคัญ

G Floor

  • The Rhyme Lobby
  • Smart Laundry Lounge
  • Harmonic Seating Space
  • Sunken Seat

8th Floor

  • Shade Garden
  • Radiant Seating

29th Floor

  • Infinite Horizon Pool
  • Sky Hot Pool
  • Symphony Jacuzzi
  • Cabana
  • Kid’s Pool
  • Haven Lounge
  • Long Table Dining Room
  • Savory Cooking Lab
  • Recreation Space
  • Kiz Club

30th Floor

  • The Cloud Gym
  • Cinematic Room
  • Co-Working Common
  • Health Station

 

 

Rooftop

  • Panoramic Bar
  • Sky Pavillion
  • Moonlight Party Balcony
  • Cloud Deck
  • Sky Garden Deck

งานออกแบบและตกแต่งภายในของโครงการฯ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีการใช้ชีวิตแบบคนเมืองของคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายของไลฟ์สไตล์ โครงการฯตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นและใช้เส้นสายในลักษณะแนวตั้งที่สอดรับการงานออกแบบภายนอกอย่างลงตัว ไดนามิคของผิวเชิงสัมผัสของวัสดุเน้นไปทาง หินอ่อนสีดำตัดกับสีขาว กระจกเงา รวมทั้งสอดรับกับความสดชื่นของธรรมชาติที่เน้นการออกแบบมาเชื่อมต่อกับแสงและวิวของกรุงเทพฯที่ปรับเปลี่ยนไปตามเวลาสะท้อนความเป็น โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง เอกลักษณ์ที่โดดเด่นในย่าน

Rhyme-Ramkhamhaeng.gif

บริเวณชั้น G ด้านหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่ Lifestyle Retails จำนวน 2 ชั้น เป็นพื้นที่เปิดให้บุคคลภายนอกสามารถเข้ามาใช้งานพื้นที่ส่วนนี้ได้เปรียบเสมือนห้างขนาดเล็กที่ถูกหยิบยกเข้ามาไว้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงของการเลือกสรรและเจรจาร้านค้าที่จะเกิดขึ้นใน Lifestyle Retails สำหรับล็อบบี้ของโครงการฯ The Rhyme Lobby จะถัดเข้ามาอยู่ด้านในช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวขึ้นจากบุคคลภายนอกที่เข้ามาใช้งาน Lifestyle Retails โดยพื้นที่ล็อบบี้ของจะมีระบบ O2 Generator ที่ถูกปล่อยปล่อยออกมาเพื่ออากาศที่บริสุทธิ์ ทำให้รู้สึกสดชื่น ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าประตูโครงการฯ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เปิดบริเวณ Semi Outdoor เชื่อมต่อกับ Sunken Seat และ Harmonic Seating Space พื้นที่ที่ให้นั่งพักท่ามกลางสายน้ำ Waterscape ช่วยให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย สงบ ใจเย็น  ลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 4 ตัว สำหรับที่พักอาศัยจำนวน 546 ยูนิต รองรับที่จอดรถแบบ Conventional จำนวน 285 คัน หรือคิดเป็น 51.35%  โดยที่จอดรถตั้งแต่ชั้น 2-7

The Rhyme Lobby

Harmonic Seating Space

พื้นที่ชั้น 8 Shade Garden เรือนเพาะชำ พื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ เทรนด์ปัจจุบันที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นคือการปลูกต้นไม้ขนาดเล็กไว้ในห้องพักหรือที่พักอาศัยที่นอกจากจะช่วยผ่อนคลายในเรื่องของพื้นที่สีเขียวแล้ว ต้นไม้ยังช่วยฟอกอากาศและกรองมลพิษ โครงการจึงจัดเตรียมพื้นที่บริเวณฯนี้ไว้สำหรับลูกบ้านที่มีความต้องการเพาะปลูกต้นไม้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำในห้องพักอาศัยเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ซึ่งจะมีอุปกรณ์ต่างๆจัดเตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ Radiant Seating สำหรับนั่งพักผ่อนท่ามกลางสวนและพื้นที่สีเขียว


ชั้น 29
จุดไฮล์ไลท์สำคัญของโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางมากที่สุด
สระว่ายน้ำยาว 25 เมตร ระบบเกลือ ประกอบด้วย Infinite Horizon Pool สระว่ายน้ำแบบเปิดรับวิว 360 พร้อมชมวิวเมืองในย่านรามคำแหง โดยพื้นที่ของสระว่ายน้ำจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งแบบ Outdoor และ Semi Outdoor สำหรับพื้นที่ Semi Outdoor ได้รับการปกคลุมจากพื้นที่ชั้น 30 ด้านบนทำหน้าที่เป็นเสมือนหลังคากันแดดให้กับสระว่ายน้ำบางส่วน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สระน้ำร้อน Sky Hot Pool และ Symphony Jacuzzi รวมทั้ง Kid,s Pool ที่อยู่บริเวณด้านข้าง รวมถึงโซน Cabana พื้นที่ที่ถูกออกแบบให้เป็นที่นั่งเล่นด้วยเช่นกัน

พื้นที่ด้านในตัวอาคารบริเวณชั้น 29 ถูกออกแบบและตกแต่งอย่างหรูหราโดยแบ่งแยกออกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนที่ 1 Heaven Lounge หรือพื้นที่สำหรับMeeting หรือนั่งทำงานพักผ่อน

Haven Lounge

ส่วนที่ 2 พื้นที่ Kiz Club ห้องสำหรับการเรียนรู้ของกลุ่มเด็กที่เต็มไปด้วยของเล่น หนังสือ สำหรับเด็กโดยโครงการเลืกสรรวัสดุที่นำมาตกแต่งภายในให้มีความปลอดภัยจากอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นการล้มหรือการกระแทก เพื่อป้องกันอันตรายหรือบาดแผลที่อาจเกิดขึ้น ช่วยให้ผู้ปกครองสบายใจมากยิ่งขึ้นด้วย

Kiz Club

ส่วนที่ 3 Recreation Space หรือห้อง Game Room สำหรับสายกิจกรรมที่รักความสนุกสนานและรวมกลุ่มกัน

Recreation Space

ส่วนที่ 4 Savory Cooking ที่เป็นเสมือน Co-Cooking พื้นที่สำหรับทำอาหาร นอกจากนี้โครงการยังติดตั้ง Smart Mirror ที่สามารถเปิดดูวิธีการทำอาหารและทำไปพร้อมกับวิดีโอได้ รวมทั้ง Long Table Dining Room พื้นที่รับประทานอาหารสุดหรูหราที่ให้ความรู้สึกหรูหราเสมือนนั่งทานอาหารอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาว

ชั้น 30 ประกอบด้วย The Cloud Gym เกิดจากแนวคิดและความตั้งใจของโครงการต่อการเลือกสรรอุปกรณ์การออกกำลังกายที่รองรับการใช้งานได้จริง เพื่อเป็นการช่วยลูกบ้านประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเป็นสมาชิกของ Fitness

Co-Working Common พื้นที่รองรับการทำงานที่ช่วยเสริมสร้างแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์

Cinematic Room ห้องดูหนังสำหรับการดูร่วมกันเป็นกลุ่มที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมและสร้างความสนุกสนานไปพร้อมๆกันของกลุ่มเพื่อน บางครั้งพื้นที่ในห้องอาจรองรับไม่เพียงพอ Cinematic Room จึงเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ได้ดี

และ Health Station ที่ทางโครงการนำมาบริการลูกบ้านในเรื่องสุขภาพถึงที่โดยไม่ต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลในกรณีที่เจ็บป่วยเล็กน้อย แต่ต้องการพบหมอ ทางAssetWise ทุ่มงบลงทุนเพื่อพัฒนา Health Station โดยเป็นการจับมือร่วมกับ รพ.สมิติเวช และ รพ.เปาโล สำหรับ Health Station คาดว่าจะได้เห็นในทุกๆโครงการต่อไปของAssetWise

โครงการออกแบบบันไดที่มีลักษณะของ Hill ให้ความรู้สึกเสมือนการเดินขึ้นหน้าผาหรือไต่ระดับขึ้น เพื่อมายัง Rooftop จุดดาดฟ้าของอาคารที่เปรียบเป็นเสมือนยอดเขา โดยมีที่นั่ง Panoramic Bar เป็นจุดนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกและทำเลเมืองของย่านรามคำแหงยามค่ำคืนที่มองเห็นทั้งแสงไฟและการใช้ชีวิต พื้นที่ด้านบน Rooftop ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นสวนพักผ่อนประกอบด้วย Moonlight Party Balcony , Cloud Desk , Sky Garden Deck และ Sky Pavilion

Panoramic Bar

Rooftop

วิวเมืองจากอาคารโครงการ

วิวเมืองชั้น 10th Floor

วิวเมืองชั้น 15th Floor

วิวเมืองชั้น 20th Floor

วิวเมืองชั้น 25th Floor

วิวเมืองชั้น Rooftop

ห้องพักอาศัยของโครงการแบ่งออกเป็น

Simplex 9th – 27th Floor :
1 Bedroom 23.38 Sq.m. – 23.68 Sq.m.
1 Bedroom Exclusive 25.20 Sq.m – 26.55 Sq.m.
1 Bedroom Extra 29.92 Sq.m
1 Bedroom Plus 34.67 Sq.m – 34.82 Sq.m.

Vertical Suite 8th , 28th Floor
1 Bedroom Exclusive Vertical Suite 23.28 Sq.m – 42.71 Sq.m.
1 Bedroom Plus Vertical Suite 34.88 Sq.m. – 46.99 Sq.m.

Type C1DVS 25.65 Sq.m.

โดยโครงการทำห้องตัวอย่างไว้ให้ดูทั้งหมด 5 แบบ เรียกได้ว่าเห็นทุกแบบที่มีห้องในโครงการฯ สำหรับ prop2morrow พาชมห้องตัวอย่าง 3 แบบที่น่าสนใจของโครงการ Modiz Rhyme Ramkhamhaeng โครงการฯขายห้องชุดแบบ Fully Furnished มาให้พร้อมทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่เพียงแค่ลากกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้ทันที

1 Bedroom Exclusive Vertical Suite 25.65 Sq.m.

เปิดด้วยห้องที่ถือว่าเป็นไฮล์ไลท์ของโครงการเลยก็ว่าได้ เพราะห้องแบบ Vertical Suite มีเพียง 2 ชั้นเท่านั้น นั่นคือ ชั้น 8 และ ชั้น 28 โดยมีความสูง 4.8 เมตร จากพื้นห้องถึงเพดาน โดยห้องพักอาศัยแบ่งเป็น 2 ชั้น พื้นที่ชั้นแรกจะเป็นส่วนห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และพื้นที่ชั้น 2 มีลักษณะเป็นชั้นลอยจะเป็นห้องนอน ระดับความสูงFloor-to-ceiling ระหว่างชั้น ชั้นล่างมีความสูงที่ 2.2 เมตร ชั้นบนมีความสูงที่ 2.3 เมตร และส่วนที่เหลือเป็นSpace ของชั้นพื้นของห้องชั้นลอย ถือว่าโครงการทำห้องตัวอย่าง Type นี้ให้ดูไว้ดีมาก ในเรื่องของการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยทำให้ห้องดูกว้างขวางชนิดที่ว่าใครเข้าไปก็ต้องถามว่านี่คือห้อง 25.65 Sq.m. จริงๆหรือ? ค่อนข้างมีพื้นที่เหลือเยอะไม่รู้สึกอึดอัด รวมถึงความโปร่งที่ทางโครงการให้ก็ถือว่าสูงมาก

โครงการติดตั้ง Digital Door Lock ให้กับทุกห้อง โดยรองรับระบบการใช้งานถึง 5 วิธี ได้แก่ การกดรหัส การสแกนลายนิ้วมือ เลือกใช้คีย์การ์ดสำหรับเปิดห้อง หรือการใช้ผ่านระบบMobile Application ในการส่งรหัสข้อมูลให้กับผู้มาติดต่อในกรณีที่เจ้าของห้องไม่อยู่ และสุดท้ายด้วยระบบกุญแจ การติดตั้งDigital Door Lock ช่วยให้ผู้พักอาศัยรู้สึกถึงความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นและเป็นประโยชน์มากสำหรับการพักอาศัยในคอนโดโดยเฉพาะผู้ปล่อยเช่าเนื่องจากจะได้ไม่ต้องคอยเปลี่ยนกุญแจลูกบิดบ่อยๆเมื่อผู้เช่าคนเดิมย้ายออก ระบบDigital Door Lock ที่รองรับการใช้งานหลากหลายวิธีช่วยแก้ปัญหาของการลืมไม่ว่าจะเป็นลืมกุญแจ หรือคีย์การ์ดก็ยังสามารถใช้ลายนิ้วมือสแกนเพื่อเข้าห้องได้ Digital Door Lock ถือเป็นเทคโนโลยีมาตรฐานของคอนโดมิเนียมที่ปัจจุบันทุกโครงการต้องมี

พื้นห้องทางโครงการให้เป็นไวนิลลายไม้ซึ่งเป็นวัสดุที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันสำหรับโครงการคอนโดมิเนียมด้วยคุณสมบัติที่ทนทานต่อความชื้นและบางชนิดมีคุณสมบัติไม่ลามไฟจึงเหมาะสำหรับอาคารสูง พื้นไวนิลเกิดจากผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์จากกระบวนการปิโตรเคมีโดยไม่มีไม้เป็นส่วนผสมทำให้คลายกังวลในเรื่องของปลวก

ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว และติดตั้งระบบ Bluetooth Sound System พร้อมลำโพงฝังเพดานมาให้โดยใช้งานเปิดผ่านตัวเครื่องหรือโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อกันเหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงและคลายความเหงาลงจากการอยู่ห้องพักคนเดียว

พื้นที่ครัว Kitchen room เป็นครัวแบบปิดกั้นด้วยกระจกบานสไลด์ 3 ตอนระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น ช่วยป้องกันกลิ่นที่เกิดจากการทำอาหารเข้ามารบกวนในพื้นที่ส่วนอื่นๆ โครงการBuilt-in ตู้เก็บของในห้องครัวมาให้พร้อม ด้วยวัสดุปิดผิวแบบHigh Gross (ไฮกลอส) ซึ่งทำให้ดูสวยงามและโมเดิร์นขึ้น ข้อดีคือทนต่อรอยขีดข่วนและสารเคมีต่างๆแต่ต้องคอยหมั่นทำความสะอาดบ่อยๆเนื่องผิวแบบ High Gross จะเห็นคราบสกปรกที่ค่อนข้างชัดเจน

ตู้ด้านล่างปิดผิวด้วยลามิเนตซึ่งช่วยรองรับการสัมผัสที่มีความทนทานมากกว่า ทั้งความร้อน ความชื้น คราบมันและรอยนิ้วมือ ที่จะไม่ปรากฎบนบานตู้ครัวเนื่องจากมีลักษณะเป็นผิวเรียบสีด้านไม่เงา และโดยปกติแล้วอุปกรณ์ทานอาหารไม่ว่าจะเป็นจาน ชาม ช้อน ส้อม หรืออื่นๆ พฤติกรรมการใช้งานมักจะเลือกเก็บอุปกรณ์เหล่านั้นไว้ที่บริเวณตู้ด้านล่างมากกว่าอยู่แล้ว จึงเหมาะสมต่อการใช้งาน

ด้วยพื้นที่และขนาดห้องพักอาศัยคอนโดมิเนียมที่ถูกจำกัดทำให้การประกอบอาหารในห้องพักอาจมีกลิ่นและควันรบกวนโครงการจึงติดตั้ง Hood ดูดควันของ MEX แยกท่อแบบต่อตรงออกนอกอาคารมาให้ ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้ลดลง ประสิทธิภาพของการทำงานในการกำจัดกลิ่นและควันได้ดีกว่าแบบหมุนเวียน นอกจากนี้เครื่องดูดควัน MEX มีฟิลเตอร์กรองน้ำมัน ที่สามารถทำการเก็บกักน้ำมันที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย

Top ครัวที่ได้จะเป็นหินสังเคราะห์ซึ่งจะดีกว่าหินจริงที่ทำให้เกิดรอยด่างง่ายจากการใช้งาน โดยหินสังเคราะห์หรือหินเทียม จะมีความแข็งแรง ผิวหน้าหนาดูแลและทำความสะอาดง่ายหากกรณีที่เกิดรอยสกปรกขึ้นสามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดได้ทันทีแต่ในกรณีที่เป็นคราบสะสมที่เกิดขึ้นนานและไม่สามารถเช็ดออกให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมแอมโมเนีย แต่ให้ระวังในเรื่องของกรดเกลือหรือสารเคมีเข้มข้นเพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย กรณีที่เกิดรอยสามารถใช้กระดาษทรายขัดเบาๆและน้ำยาขัดเงาเช็ดอีกทีจะช่วยคงสภาพและความเงางามให้อยู่ดังเดิม

ผนังกันเปื้อน หรือ Backsplash ทางโครงการตกแต่งผนังให้ด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาว ข้อดีคือทนความร้อน ความชื้น เช็ดทำความสะอาดง่ายมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่อาจจะต้องระวังในจุดร่องหรือรอยจากลายเส้นที่ทำความสะอาดได้ยากเมื่อใช้ไปนานๆอาจเกิดคราบฝังลึกเกิดขึ้นโดยเฉพาะบริเวณยาแนว

โครงการติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมกล่องกันน้ำมาให้ทั้งในห้องครัวและห้องน้ำ เพื่อป้องกันของเหลวหรือสิ่งอื่นใดที่กระเด็นไปโดนและก่อให้เกิดอันตรายได้ถือเป็นจุดเล็กๆที่มีความสำคัญและใส่ใจ

เป็นโครงการแรกฯของทาง AssetWise ที่ติดตั้งเครื่องกรองน้ำมาให้พร้อมใช้งานในทุกยูนิตนอกเหนือจากความใส่ใจแล้วยังเป็นการลดปัญหาในเรื่องของการกดน้ำดื่มหรือหิ้วน้ำดื่มขึ้นมาบนห้องพักอาศัย พร้อมทั้งติดตั้งระบบแอร์ที่ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 เพื่ออากาศในห้องพักที่สดชื่นและปลอดโปร่งขึ้น

ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัดของการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมโครงการฯจึงออกแบบโต๊ะรับประทานอาหารที่สามารถพับเก็บได้มาให้ด้วย ช่วยลดการใช้พื้นที่การวางโต๊ะรับประทานอาหารลงและได้พื้นที่เพิ่มเมื่อไม่ใช้งาน แต่ในบางครั้งเราอาจจะต้องหมั่นคอยยกเก้าอี้มาเมื่อจะรับประทานอาหารและต้องหามุมจัดเก็บเก้าอี้เพิ่มสักหน่อยที่ดูแล้วรู้สึกเข้าที่และลงตัวสำหรับห้องพัก

ห้องน้ำ โครงการให้โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าจาก Cotto พร้อมติดตั้งฉากอาบน้ำTempered Glass แบบบานเปลือย มือจับทรงตัว U ที่สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ ช่วยกั้นพื้นที่เปียกและแห้งออกจากกันชัดเจน ทำให้ให้เกิดความปลอดภัยจากการใช้งาน ชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำจำพวกสบู่ แชมพู ทางโครงการเจาะช่องเพื่อให้เกิดพื้นที่สำหรับวางผลิตภัณฑ์ต่างๆ ช่วยลดปัญหาในเรื่องของการหาซื้อชั้นวางของมาใส่แล้วต้องเสียเวลาเสียเงินเพิ่มอีกในการเจาะและติดตั้งชั้นวาง การเจาะช่องในลักษณะแบบนี้ช่วยทำให้ห้องน้ำดูเป็นระเบียบมากขึ้นมีพื้นที่จัดวางที่ชัดเจนและช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของความรกจากชั้นวางผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้ดูขัดตาในบางครั้ง สำหรับห้องน้ำได้ตามแบบห้องตัวอย่างที่ทางโครงการออกแบบไว้ให้ดูเลย

ห้องนั่งเล่น Living Area พื้นที่ส่วนนี้โครงการบิวท์อินชั้นวางทีวีพร้อมตู้เก็บของมาให้พร้อม มีความสูงจากพื้นถึงเพดานส 4.8 เมตร ช่วยรู้สึกสบายไม่อึดอัดจากการได้ความสูงโปร่งที่สูงยิ่งขึ้น ให้โซฟามาด้วยเลย สำหรับคนอยู่คอนโดฯแล้วพื้นที่บริเวณนี้มักถูกใช้งานบ่อยที่สุดกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง พักผ่อน หรือคุยโทรศัพท์ พื้นที่ส่วนนี้ถือเป็นโซนสำคัญของการอยู่คอนโดมิเนียมเลยก็ว่าได้ หากมีพื้นที่เล็กจะทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวแต่สำหรับ AssetWise แล้วType ห้องนี้ถือว่ากว้างขวางมากยังมีพื้นที่ด้านข้างที่ทางโครงการทำเป็นมุมรับประทานอาหารแบบ 2 คนไว้เป็นไอเดียได้สบายๆ หรือเราอาจเปลี่ยนเป็นมุมทำงานเล็กๆที่เอาไว้เคลียงานค้างในแต่ละวัน หรือมุมสำหรับเล่นเกมส์ผ่อนคลายก็ยังได้ หรือหากต้องการพื้นที่กว้างๆก็ปล่อยเป็นพื้นที่ว่างได้ เพราะโต๊ะรับประทานอาหารทางโครงการก็ดีไซน์ไว้ให้แล้ว เชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่ระเบียงด้านนอกที่ออกแบบไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าที่เมื่อซักเสร็จแล้วสามารถแขวนตากได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินเอาผ้าจากที่หนึ่งมายังอีกที่หนึ่ง พื้นที่ระเบียงเพียงพอสำหรับการออกไปยืนรับลมหรือชมวิวเมืองเพื่อเสพบรรยากาศ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่อยู่คอนโดมิเนียมการใช้งานบริเวณระเบียงค่อนข้างน้อยมากกกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นจะมีเพียงแค่จำเป็นเท่านั้นอย่างเช่นการตากผ้า เป็นต้น จึงทำให้ห้อง Type นี้มีระเบียงที่ไม่ใหญ่มากแต่เพียงพอสำหรับการใช้งาน บันไดมีพื้นที่กว้างพอ ขนาดที่ 2 คนเดินสวนกันได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอน Bedroom ความสูง Floor-to-ceiling สูง 2.3 เมตร ทางโครงการฯให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต แบบมีลิ้นชักสามารถเก็บของใต้เตียงได้ พร้อมบิวท์อินตู้เสื้อผ้าเต็มบานและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ ซึ่งในมุมนี้อาจเปลี่ยนเป็นมุมทำงานสำหรับ Work from home ก็ยังได้ ติดตั้งกระจกแบบเต็มบานตั้งแต่พื้นห้องนอนถึงฝ้าเพดานมาให้พร้อม หากต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นสามารถติดม่านเพื่อช่วยบังสายตาจากพื้นที่บริเวณชั้นล่าง สำหรับแอร์ในห้องนอนโครงการฯติดตั้งให้บริเวณด้านข้างตั้งฉากกับหัวเตียงซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดเนื่องจากทำให้การนอนหลับรู้สึกสบายขึ้น และลมเย็นจากแอร์จะไม่ปะทะตัวโดยตรงเหมือนกับการติดตั้งแอร์ไว้บริเวณหัวนอนทำให้รู้สึกเย็นเกินไป อาจทั้งส่งผลต่อการนอนหลับที่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและก่อให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้นได้

สำหรับห้อง แบบ 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite 25.65 Sq.m. โครงการฯติดตั้งแอร์มาให้ 2 ตัว อยู่ที่ห้องนั่งเล่น 1 ตัว และห้องนอน 1 ตัว เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการให้ประกอบด้วย ชุดโซฟา และ ชุดรับประทานอาหาร

ชุดเฟอร์นิเจอร์ โซฟาที่ได้ทางโครงการให้ประกอบห้องชุด
ชุดเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะรับประทานอาหารที่ทางโครงการให้ประกอบห้องชุด
1 Bedroom Exclusive 25.83 Sq.m.

เปิดประตูห้องเข้ามา จะเป็นโซน Living Area ที่ทางโครงการให้ชุดโซฟา พร้อมบิวท์อินชั้นวางทีวีและตู้เก็บอุปกรณ์ของใช้มาให้ วัสดุปิดผิวแบบ High Gross และชั้นวางของมาให้ ระยะห่างประมาณ 1 เมตรกว่าๆระหว่างโซฟากับชั้นวางทีวี ซึ่งเหมาะกับทีวีขนาด 30 – 45 นิ้ว ที่เป็นการช่วยรักษาสมดุลของระยะสายตา ผนังห้องของจริงฉาบเรียบทาสีขาว ความสูง Floor-to-ceiling ของห้อง Type ปกติที่ไม่ใช่ห้องแบบ Vertical Suite มีความสูง 2.7 เมตร

ติดกับโซน Living Area เป็นส่วนของ ห้องน้ำ โดยวัสดุและสุขภัณฑ์ที่ได้จะมีลักษณะเดียวกันกับห้อง Type ที่แล้ว

พื้นที่ด้านในจะเป็นห้องครัว Kitchen room แบบปิดกั้นด้วยกระจกบานสไลด์ 2 ตอน โดย Spec และวัสดุที่ได้เป็นแบบเดียวกันกับห้องที่แล้ว ห้องครัวถือว่าค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดของห้อง 25.58 ตารางเมตร ยังเหลือพื้นที่ด้านหลังที่ค่อนข้างกว้างมากพอสำหรับการเดินสวนกัน 2 คน ทำให้อึดอัด สำหรับสายเชฟหรือคนรักการเข้าครัวแล้วพื้นที่ด้านหลังยังสามารถบิวท์อินตู้หรือชั้นวางเพิ่ม สำหรับวางอุปกรณ์ครัว เครื่องปรุง หรือภาชนะต่างๆ ก็ยังได้ โดยพื้นที่ครัวส่วนนี้จะถูกเชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านนอกที่มีพื้นที่มากกว่า Type Vertical Suite โดยได้ความยาวของระเบียงเพิ่มขึ้น

ได้แอร์ 2 ตัวในห้องนั่งเล่นและห้องนอนโดยห้องนอนตำแหน่งแอร์จะอยู่ที่บริเวณปลายเท้าเนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่ ด้านหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการบิวท์อินมาให้แบบเต็มบานและอีกด้านหนึ่งเป็นผนังกระจก จึงทำให้เหลือพื้นที่ติดตั้งแอร์ได้ที่บริเวณปลายเท้าเท่านั้นดังนั้นอาจจะต้องเตรียมผ้าห่มที่มีความหนามากขึ้นอีกหน่อยเพื่อช่วยปรับอุณหภูมิและสมดุลของร่างกายลดภาวะลมเย็นของแอร์ที่ตกกระทบโดยตรง

ห้องนอนโครงการให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตแบบมีลิ้นชักเก็บของใต้เตียงและเหลือพื้นที่บริเวณรอบๆเตียงที่ทำให้ห้องนอนไม่รู้สึกอึดอัด โครงการติดตั้งหน้าต่างแบบบานกระทุ้งมาให้เพื่อเปิดให้เกิดการถ่ายเท หมุนเวียนระหว่างอากาศในห้องนอนกับอากาศด้านนอก และยังช่วยลดกลิ่นอับจากการใช้ห้องเป็นประจำโดยการเปิดหน้าต่างให้อากาศและแสงแดดจากภายนอกส่องถึง

1 Bedroom Plus 34.82 Sq.m.

สำหรับห้อง Type นี้โครงการทำห้องตัวอย่างไว้ให้ดูเป็นแบบห้อง 1 Bedroom โดยพื้นที่ที่เพิ่มเข้ามาหรือในส่วนที่ Plus ถือว่าเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันและอนาคตได้ดีเลยทีเดียว เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่รองรับการทำงานแบบ Work from home รวมทั้งเหล่า Youtuber และสายงาน Digital Online ที่น่าจะถูกใจหลายๆคน

ห้องมีหน้ากว้างราว 3 เมตร ทำให้ห้องดูค่อนข้างใหญ่กว้างขวาง โซน Kitchen ของห้อง Type นี้เป็นแบบครัวเปิด อาจทำให้เกิดการกังวลในเรื่องของกลิ่นแต่โดยพฤติกรรมของผู้อาศัยอยู่ในคอนโดแล้วการประกอบอาหารมักเป็นเพียงแค่การอุ่นเพื่อพร้อมทานเท่านั้นดังนั้นกลิ่นที่เกิดจากการประกอบอาหารอาจไม่ได้ฉุนหรือส่งกลิ่นแรงมากเท่าไร รวมทั้งยังมีHoodดูดควันที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ช่วยลดกลิ่นและควันลงบ้างแล้ว แต่หากยังคงกังวลก็แนะนำให้มีสเปรย์กำจัดกลิ่นติดห้องไว้ด้วยก็จะดี แต่ข้อดีของการเป็นพื้นที่ครัวเปิดคือเราจะได้พื้นที่ครัวกว้างขึ้นไม่อึดอัด ครัวในลักษณะแบบนี้มักนิยมทำกันในบ้านสมัยใหม่ที่ถูกจำกัดด้วยพื้นที่และขนาดของห้อง โครงการบิวท์อินตู้มาให้ทั้งด้านเคาน์เตอร์ครัวและด้านหลังที่บิวท์อินเป็นตู้เก็บของ พร้อมทั้งออกแบบโต๊ะรับประทานอาหารที่สามารถพับเก็บและยกขึ้นมาได้เมื่อต้องการใช้งาน รองรับวิถีการใช้ชีวิตในรูปแบบนิยมที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องของ Space ที่เพิ่มขึ้น

พื้นที่ติดกับครัวเป็นห้องน้ำ Spec ของวัสดุและสุขภัณฑ์ได้เหมือนกับ 2 Type ก่อนหน้านี้และได้เหมือนกันทุกยูนิตในโครงการ

พื้นที่ Living Area จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ครัวซึ่งโครงการบิวท์อินชั้นวางทีวี ชั้นวางของ ตู้เก็บของมาให้พร้อมใช้งาน และเซตโซฟาสำหรับนั่งเล่น หากใครมองว่าพื้นที่ในส่วนนี้ค่อนข้างคับแคบไปสำหรับโซน Living อาจเปลี่ยนเป็นมุมทำงานหรือมุมสำหรับกิจกรรมส่วนตัวแทนก็ได้แล้วย้ายพื้นที่ Living Area ไปอยู่ในห้องอเนกประสงค์แทน ก็จะได้พื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย

ห้องนอน โครงการให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต แบบมีลิ้นชักเก็บของ พื้นที่โดยรอบของห้องนอนมีขนาดใหญ่พอสมควรไม่อึดอัดเนื่องจากยังคงเหลือ Space ที่สามารถเดินได้ เราจะเห็นในหลายๆโครงการที่บางครั้งห้องนอนสามารถวางได้แค่เตียงเท่านั้นซึ่งจะทำให้รู้สึกอึดอัดและคับแคบ พื้นที่ว่างบริเวณปลายเตียงและด้านข้างเหลือเกือบ 1 เมตร จึงทำให้ห้องดูโล่งและรู้สึกสบายขึ้น บิวท์อินตู้เสื้อผ้าที่มีความสูงแบบเต็มห้องมาให้พร้อมใช้งาน โดยตู้เสื้อผ้าที่ได้จะมีลักษณะดังภาพคือ ประตูเปิดเป็นแบบกระจกใสที่สามารถมองเห็นถึงด้านใน รองรับพื้นที่สำหรับแขวนชุดยาว และชั้นวางของ นอกจากนี้ยังบิวท์อินโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ทางด้านข้างของเตียง หรือหากใครที่เสื้อผ้าเยอะหน่อยก็สามารถสั่งทำตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้ซึ่งก็จะเข้ามุมพอดี

ติดตั้งแอร์ให้ 2 ตัว ในบริเวณห้องนั่งเล่น และห้องนอน

ห้องอเนกประสงค์ หรือห้อง Plus ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากห้อง 1 Bedroom ห้องค่อนข้างกว้างสามารถปรับเป็นห้องนอนเดี่ยวได้โดยโครงการให้เตียงขนาด 3.5 ฟุต มาพร้อมกับห้องชุด นอกจากนี้ห้องนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามแต่พฤติกรรมของบุคคลตามการใช้ชีวิต โครงการเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงทำให้เกิด The Next Normal Living ภายในโครงการที่อาจทำเป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-in-Closet ก็ได้ หรือสำหรับสายDigital Online และเหล่า Youtuber ที่ต้องขายของผ่านการไลฟ์สด ก็สามารถตกแต่งห้องให้มีความน่าสนใจและใช้พื้นที่บริเวณห้องนี้ในการทำกิจกรรมหรือประกอบอาชีพที่ 2 ในการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง

รามคำแหงทำเลที่เติบโตและพัฒนาขึ้นในทุกวันจากที่เคยเจริญมากอยู่แล้วจะกำลังจะถูกพลิกโฉมและเติบโตขึ้นไปอีกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีโครงการที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นใหม่หลายโครงการบนทำเลที่กำลังจะกลายเป็น Next CBD ของกรุงเทพฯ เชื่อมต่อพื้นที่ใจกลางเมืองหลวง

โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง คอนโดมิเนียมที่สะท้อนความเป็น Metropolitan ผ่านการออกแบบและคำนึงถึงการใช้ชีวิตในแบบฉบับของคนเมืองรุ่นใหม่จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของการอยู่อาศัย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบด้วยไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันสู่ความ Synchronize Your Living เชื่อมต่อทุกจังหวะชีวิตที่เป็นคุณ พร้อมเปิดชมห้องตัวอย่างแล้ว สนใจลงทะเบียนคลิก https://bit.ly/2ZK4lgQ  เปิดรอบ Pre-sale 1 สิงหาคม 2563 ณ.สำนักงานขายโครงการฯ สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-1680000 หรือ Line : @modizrhyme

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*