3 พันธมิตรนักลงทุนอสังหาฯร่วมมือสถาบันการเงินรายใหญ่เปิดตัว “ALLY KEX Private Equity Trust” ไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์ เพื่อการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย หวังช่วยผู้ประกอบการเสริมสภาพคล่อง ในการจัดหาเงินทุนระยะสุดท้ายพัฒนาโครงการต่อเนื่อง ดันรายได้รวดเร็ว และขยายธุรกิจอนาคต คาดภายในครึ่งแรกปี 66 ใช้เงินลงทุนทั้งหมด 810 โครงการ
นายพนล ลีลามานิตย์ หุ้นส่วนผู้จัดการ ALLY KEX Private Equity Trust เปิดเผยว่า ได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรและสถาบันการเงินเปิดตัว “ALLY KEX Private Equity Trust” ซึ่งเป็นไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์ เพื่อการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยกองทรัสต์ดังกล่าว ก่อตั้งโดยทุนเริ่มต้นจาก KE GROUP และดูแลบริหารโดยนายเอเดรียน ลี อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไรมอนด์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) โดยกองไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์ มีเป้าหมายเพื่อช่วยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการสภาพคล่อง ในการจัดหาเงินทุนระยะสุดท้ายเพื่อพัฒนาโครงการที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้จากโครงการและประสบความสำเร็จได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งเป็นการเสริมสภาพคล่องที่จำเป็นสำหรับการขยายธุรกิจต่อไป

“หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างมาก หากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีสถานะเงินสดที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจและได้รับผลประโยชน์เมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่สถานภาพทางการเงินของผู้ประกอบการมีความไม่สมดุล ประกอบกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนจากหลายปัจจัย เห็นว่า ช่วงเวลานี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักลงทุนของกลุ่มตน ที่จะสามารถมีส่วนร่วมลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ที่ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอยู่ในตลาด ที่ระดับโครงการได้โดยตรง ในขณะที่ผู้ประกอบการสามารถบริหารสภาพคล่อง เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนเป้าหมายการลงทุนและรับความเสี่ยง เมื่อเซกเมนต์ตลาดที่เติบโตเร็วเปลี่ยนไปและมีผลิตภัณฑ์ใหม่เกิดขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19” นายพนล กล่าว

โดย ALLY KEX Private Equity Trust มีหุ้นส่วนผู้จัดการ 3 ราย ได้แก่ นายเอเดรียน ลี นายพนล ลีลามานิตย์  และนายธัญธร ณัฐธัมม์ ซึ่งล้วนมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยกองไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์ มีคณะกรรมการการลงทุนที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ อาทิ นายกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร KE GROUP และนางสุพินท์ มีชูชีพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ALLY KEX Private Equity Trust จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนที่มีอยู่เดิมกับโอกาสการเติบโตที่มีอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

นายเอเดรียน ลี หุ้นส่วนผู้จัดการ ALLY KEX Private Equity Trust กล่าวว่า ตนรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มาเป็นพันธมิตรและทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์มากมาย ที่จะมาร่วมกันพัฒนาแนวคิดใหม่ในด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รู้สึกได้ว่า คำแนะนำและการกำกับดูแลของคณะกรรมการการลงทุนที่มีประสบการณ์ ประกอบกับความเชี่ยวชาญและพลังงานที่ดีเยี่ยมของทีมงาน รวมถึงตัวผมเอง จะทำให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนทุกคน

“โครงสร้างของไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์ (Private Equity Trust) นี้ เป็นโครงสร้างทางกฎหมายครั้งแรกในประเทศไทยที่ได้รับอนุญาตให้บุคคลทั่วไปเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ส่วนบุคคลได้ ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมีผู้เล่นเกี่ยวกับกองทุนไพรเวทอิควิตี้ (Private Equity Fund) เพียงไม่กี่ราย โดยส่วนใหญ่แฝงอยู่ในรูปการลงทุนด้วยโครงสร้างบริษัทจำกัด ที่กำกับดูแลโดยสัญญาผู้ถือหุ้น, กองทุนไพรเวทอิควิตี้ที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ หรือสำนักงานของครอบครัวที่ไม่มีรายงานการลงทุนใด ๆ”นายเอเดรียน กล่าว

นายธัญธร ณัฐธัมม์ หุ้นส่วนผู้จัดการ ALLY KEX Private Equity Trust กล่าวว่า สภาวะตลาดกำลังเปลี่ยนไป มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามามากขึ้น แต่ละรายมีความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เชื่อว่า หน่วยงานกำกับดูแลจะเริ่มกำหนดมาตรฐานใบอนุญาตสำหรับไพรเวทอิควิตี้ (Private Equity) ทั่วไป และไพรเวทอิควิตี้ด้านอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Private Equity) ในอนาคตอันใกล้ ทำให้ทิศทางของอุตสาหกรรมเป็นมาตรฐานและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของผลตอบแทนและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าสำหรับผู้จัดการ มาตรฐานการควบคุมที่สูงขึ้น และแหล่งข้อมูลและความโปร่งใสที่มีมากขึ้นสำหรับการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะลงทุน อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก (ไพรเวทอิควิตี้เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์) และได้สร้างสิ่งนี้ขึ้น เพื่อให้สามารถชิงความได้เปรียบในฐานะที่เป็นรายแรกที่ลงมือทำก่อน

สำหรับแผนการดำเนินการของกองไพรเวทอิควิตี้ทรัสต์นี้ คาดว่าจะใช้เงินทุนทั้งหมดกับโครงการประมาณ 8 ถึง 10 โครงการ ภายในครึ่งแรกของปี 2566

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*