“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน“มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” สัญจร ครั้งที่ 4 จ.ชลบุรี โดยธอส.เป็นเจ้าภาพจัดงาน พร้อมผนึกกำลังสถาบันการเงินรัฐ ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานพันธมิตรรวม 24 แห่ง ร่วมออกบูธให้คำปรึกษาแก้ไขหนี้ เติมเงิน เสริมสภาพคล่องให้กับประชาชน ระหว่างวันที่ 20-22 ม.ค.66 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน จ.ชลบุรี
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เปิดเผยว่า วันนี้(20 มกราคม 2566) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” สัญจร ครั้งที่ 4 จ.ชลบุรี โดยมีกระทรวงการคลังรวมถึงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงิน และผู้บริหารส่วนงานในท้องถิ่น เข้าร่วมในพิธีเปิดงาน ซึ่งถือเป็นงานที่จัดขึ้นต่อเนื่องจากปี 2565 โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานพันธมิตรรวม 24 หน่วยงาน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนและผู้ประกอบการอย่างตรงจุดและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายลง และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาภาระหนี้ของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้หรือมีศักยภาพในการชำระหนี้ต่ำลงยังคงมีอยู่ โดยมีการจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างครบวงจร ทั้งการแก้ไขหนี้ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ด้วยมาตรการผ่อนปรนให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง สร้างอาชีพเพิ่มรายได้ ด้วยสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม บริการทางการเงินการออม การลงทุน ด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝากหรือสลากออมทรัพย์อัตราดอกเบี้ยพิเศษ และเลือกซื้อบ้านมือสอง หรือทรัพย์ NPA เป็นต้น นอกจากภายในงานจะได้พบกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินสมาชิกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 8 แห่งแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์มาร่วมออกบูธเพิ่มเติม ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารยูโอบีรวมถึงหน่วยงานพันธมิตรอย่างสมาคมพิโกไฟแนนซ์ประเทศไทย ขณะเดียวกันกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้มาร่วมออกบูธเพื่อบริการให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อให้สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ และจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริการให้คำปรึกษาแก้ไขหนี้กับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย การให้คำปรึกษาในการแก้ไขหนี้เสียบัตรเครดิตกับคลินิกแก้หนี้ โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) เลือกซื้อบ้านมือสอง หรือทรัพย์ NPA กับบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) (BAM) และบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (IAM) บริการตรวจสุขภาพทางการเงินฟรี กับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร), การเติมความรู้วางแผนจัดการเงินส่วนบุคคล รู้ทันกลโกงการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), การให้คำปรึกษา วางแผนการออมเพื่อการเกษียณกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และบริการทางการเงินอีกมากมายจากสถาบันการเงินพันธมิตร
ขณะเดียวกัน ยังมีกิจกรรมบรรยายให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) พร้อมHighlight บนเวทีตลอดทั้งงาน อาทิ การบรรยายหัวข้อ “อยู่อย่างไรให้ปลอดหนี้ และเสริมดวงแก้หนี้” กับ หมอช้างทศพร ศรีตุลา, “เซ็นอย่างไรไม่ให้เป็นหนี้ และอยู่บ้านอย่างไรไม่ให้เป็นหนี้” กับ ซินแสเป็นหนึ่งวงษ์ภูดร และหัวข้อ “บริหารหนี้อย่างไร ให้การเงินมั่นคง” กับโค้ชหนุ่ม Money Coach จักรพงษ์เมษพันธุ์ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชนจากชาวบ้านในชุมชนมาจำหน่าย
สำหรับงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน สัญจร ครั้งที่ 4 โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2566 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน จ.ชลบุรี