ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.5 ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อน ที่มีค่าดัชนีเท่ากับ 49.8 เหตุผู้ประกอบการมีมุมมองเชิงลบต่อสถานการณ์ธุรกิจในปัจจุบัน ในขณะที่ 6 เดือนของครึ่งปีหลัง ประเมินว่าความเชื่อมั่นพุ่งสูงทะลุระดับ 62.1 โดยเฉพาะความมั่นใจเดินหน้าเปิดโครงการใหม่

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารแห่งประเทศไทย และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑลไตรมาส 2 ปี 2566  ว่า ภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) มีค่าดัชนีเท่ากับ 47.5 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ที่ผ่านมาที่มีค่าดัชนีเท่ากับ  46.7 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อน  ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ  49.8 ความเชื่อมั่นลดลงและยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0

โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นที่มีค่าสูงกว่าค่ากลางในระดับ 50 จุด มี 2 ด้าน คือ ด้านการลงทุนอยู่ในระดับ 55.8 จุด สูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อน 3.3 จุด แต่ด้านการจ้างงานอยู่ที่ระดับ 53.3 จุด ต่ำลงจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อย -3.2 จุด แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นใน 2 ด้านนี้มาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ขณะที่ความเชื่อมั่นที่กว่าระดับ 50 จุด  ประกอบด้วย ด้านผลประกอบการอยู่ในระดับ 44.8 จุดต่อเนื่องมา 2 ไตรมาส ด้านยอดขายและด้านการเปิดโครงการใหม่หรือเฟสใหม่อยู่ในระดับ 46.0 และ 47.7 จุด ตามลำดับ  แต่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 3.2 และ 0.6 จุด

นอกจากนี้ในด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) อยู่ในระดับ 37.4 จุด แม้จะต่ำกว่าค่ากลางมากแต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าและเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2565 แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการในส่วนนี้ได้ดีขึ้นทั้งนี้หากจำแนกความเชื่อมั่นตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies หรือกลุ่มบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์  มีค่าดัชนีเท่ากับ 52.1 สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนี 50.0  แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่มนี้ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบัน ประกอบด้วย ด้านผลประกอบการ ยอดขาย การลงทุน การจ้างงาน และการเปิดตัวโครงการใหม่หรือเฟสใหม่ โดยความเชื่อมั่นด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) เท่านั้นที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 จุดค่อนข้างมาก

ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies หรือกลุ่มบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 40.6 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 41.9 และยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 ต่อเนื่องมากจากปี 2565 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายย่อยยังมีความกังวลต่อปัจจัยลบดังกล่าวมากกว่ากลุ่ม Listed Companies

 สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในช่วงครึ่งปีหลัง มีค่าเท่ากับ 62.1 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 61.4 และค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการ มีความเชื่อมั่นในมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 6 เดือนนี้เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเกือบทุกด้าน ยกเว้นด้านการลงทุน ที่ลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่ากลาง ขณะที่ต้นทุน การประกอบการ (ผกผัน) ที่ปรับลดลงเล็กน้อย แสดงถึงต้นทุนยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

“ความเชื่อมั่นของภาพรวมอีก 6 เดือนข้างหน้าที่เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นผลมาจากมุมมองเชิงบวกจากการที่ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่คาดว่าจะมีนโยบายและมาตรการกระตุ้นให้มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น”

หากจำแนกกลุ่มผู้ประกอบการตามประเภทบริษัท พบว่า กลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 69.1 จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 67.1 โดยเฉพาะด้านการเปิดโครงการใหม่หรือเฟสใหม่ปรับเพิ่มขึ้นถึง  8.8 จุดจากไตรมาสก่อนหน้า ยกเว้นความเชื่อมั่นด้านต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) เท่านั้นที่อยู่ในระดับที่ต่ำลงและต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุดค่อนข้างมาก ส่วนกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 51.6 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.9

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*