ศุภาลัยฯเผยไตรมาส 3/2566 จ่อผุดแนวราบในกทม.-ปริมณฑล-ตจว.10 โครงการ รวมมูลค่า 9,650 ล้านบาท ส่วนคอนโดฯรอจังหวะและโอกาส ล่าสุดเปิดเกมรุกรับเทรนด์ Pet Humanization ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่รักสัตว์เลี้ยง ภายใต้โมเดล SUPALAI PET FRIENDLY COMMUNITY นำร่องแบบบ้านแฝด 98 ยูนิต โครงการ“ศุภาลัย วิลล์ วงแหวน ลำลูกกา คลอง 7” หวังต่อยอดความชัดเจนโปรเจกต์อนาคตปี 67-68 มั่นใจรายได้ทั้งปีตามเป้า 36,000 ล้านบาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลัง 2566 ว่า ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่วนการปรับขั้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ไม่มีผลกระทบต่อภาระการผ่อนชำระของลูกค้ามากนัก แต่ที่จะมีผลต่อเนื่องสำหรับกำลังซื้อคือ การที่ภาครัฐไม่ต่อมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV) และสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ปี 2566 พบว่าพฤติกรรมการเข้าเยี่ยมชมโครงการลดลง 5% ซึ่งก็ไม่สามารถหาคำตอบที่ชัดเจนได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่กำลังซื้ออาจจะรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังต้องเดินหน้าเตรียมพร้อมรุกพัฒนาโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่อง  โดยแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 3/2566 จะเปิดตัวใหม่จำนวน 10 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 9,650 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ จำนวน 2 โครงการ ทำเลรามคำแหง 174 และ รังสิต คลอง 4 ส่วนอีก 8 โครงการ เป็นการพัฒนาในทำเลต่างจังหวัด ได้แก่ ชลบุรี,ภูเก็ต,ฉะเชิงเทรา,หัวหิน,จันทบุรี,เชียงใหม่ และนครปฐม (2 โครงการ)

ส่วนโครงการประเภทคอนโดฯคงต้องรอดู Sentiment ของกำลังซื้อ และสถานการณ์ในช่วงนั้นๆก่อน เพราะช่วงที่เคยเกิดปัญหาทางการเมือง บริษัทฯเคยได้รับประสบการณ์จากการเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ในช่วงที่สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรง ส่งผลให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า 20-30% แต่ก็มองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงระยะสั้น เพราะยังมีดีมานด์บางส่วนที่มีความต้องการที่จะซื้อที่อยู่อาศัยภายในระยะเวลา 3-4 เดือน ก็จะตัดสินใจซื้อทันทีในช่วงนั้นๆ ส่วนบางรายที่รอได้ ก็จะใช้ระยะเวลาที่นานขึ้น

นายไตรเตชะ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเทรนด์ใหม่กำลังมาแรงและน่าจับตามองในปัจจุบันในกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมคนยุคใหม่จำนวนมากนิยมเลี้ยงสัตว์เพื่อเข้ามาเติมเต็มครอบครัว และให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองเสมือนเป็นหนึ่งสมาชิกในครอบครัวมีความเด่นชัดขึ้น หรือ Pet Humanization ด้วยปัจจัยคนโสดมากขึ้นและคนมีลูกน้อยลง สังคมผู้สูงอายุเลี้ยงสัตว์เพื่อบำบัดรักษาและคลายเหงา อีกทั้งการเติบโตของธุรกิจสุขภาพและบริการเพื่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ หันมาให้ความสนใจพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Pet Friendly รองรับกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง เนื่องจากสัตว์เลี้ยงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เข้ามามีบทบาทในการพิจารณาตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ของลูกค้า สำหรับบริษัทฯ ได้มีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ Pet Lovers มากมายในโครงการมานานแล้ว ตามคอนเซ็ปต์ “Built for Real Life” บ้านที่คิดจากชีวิตจริง เพื่อสร้างสรรค์ SUPALAI Pet Friendly Community ในโครงการของศุภาลัยฯทั่วประเทศ ทั้งทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชันพื้นที่ Corner สำหรับแมว, การเลือกใช้วัสดุภายในบ้านที่มีความแข็งแรงและป้องกันรอยขีดข่วน รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง และพื้นที่ Dog’s Park เอาใจน้องหมาได้วิ่งเล่นและมีกิจกรรมร่วมกัน

ทั้งนี้บริษัทฯ ต้องการให้เข้าถึงและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงใจกลุ่มลูกค้ามากที่สุด โดยหนึ่งใน Aglie Team ที่บริษัทฯได้นำไอเดียมาต่อยอดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่เป็นคนรักสัตว์ นั่นก็คือทีม Built for Pet’s Life ได้ศึกษาพฤติกรรมความต้องการของลูกค้าที่สนใจโครงการและมีสัตว์เลี้ยง พร้อมทั้งประสบการณ์การเลี้ยงสัตว์ของสมาชิกใน Aglie Team เอง มาระดมสมองไอเดียจนออกมาเป็นบ้านต้นแบบที่จับต้องได้ ด้วยการดีไซน์พื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชันการใช้งาน และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างลงตัวและมีความสุข ในแนวคิด “Built for Cat’s Life” ดีไซน์และจัดสเปซให้ปังกว่าเดิม ด้วยการออกแบบพื้นที่บ้านแฝด “แบบศุภชวาล” ซีรีส์ล่าสุดสไตล์ Tropical Modern โครงการ “ศุภาลัย วิลล์ วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 7 ซึ่งเป็นโครงการแรกที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์คนรักสัตว์และเหมาะสำหรับครอบครัวของคนรุ่นใหม่ ด้วยพื้นที่ใช้สอย 133 ตารางเมตร 3 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ 1 ส่วนพักผ่อน 2 ที่จอดรถ ซึ่งแบบบ้านที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในโครงการดังกล่าวมีประมาณ 98 ยูนิต ซึ่งที่ผ่านมาได้เชิญลูกค้านำสัตว์เลี้ยงมาทดสอบใช้ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

โดยการดีไซน์พื้นที่และฟังก์ชันภายในบ้านด้วยจุดเด่น Shared Space พื้นที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานร่วมกันของน้องแมวและเจ้าของ ออกแบบเปิดโล่ง ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย มีการแบ่งแยกพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนและต่อเนื่อง เพื่อแชร์พื้นที่ความสุขและกิจกรรมร่วมกันในห้องต่างๆ อาทิ ห้องรับแขก ห้องทานอาหาร ห้อง Master Bedroom และห้องทำงาน Relaxing Space มีพื้นที่สำหรับกิจกรรมของน้องแมวและเจ้าของสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง จัดเตรียมพื้นที่สำหรับต่อเติมสำหรับรองรับการเลี้ยงสัตว์ในระบบปิด เพื่อให้น้องแมวได้ผ่อนคลายกับสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตร Cat’s Parents Storage  พื้นที่สำหรับเก็บของของน้องแมวและผู้อยู่อาศัย คำนึงสุขลักษณะและการใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างสัตว์เลี้ยงและผู้อยู่อาศัย เช่น พื้นที่ใต้บันไดแยก Storage เป็นสัดส่วนเพื่อใช้เป็นพื้นที่เก็บของสัตว์เลี้ยงได้ ออกแบบให้เป็นห้องครัวปิดและมีพื้นที่ทำตู้เก็บอาหารหน้าบานปิด ห้องนอนใหญ่กั้น Walk in Closet ได้ ป้องกันขนแมวติดเสื้อผ้า Pet Friendly Materials เลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยง และดูแลรักษาง่าย เช่น พื้นไม้ลามิเนตป้องกันแบคทีเรีย  ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี , สีทาพื้นผิว Organic Care , ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์รุ่น Pet Friendly รองรับการเกาของน้องแมวได้ ป้องกันเชื้อโรค , ผ้าม่านม้วน เก็บง่าย ป้องกันแบคทีเรีย , ลามิเนตสำหรับปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ ป้องกันเชื้อโรคและน้ำ Technology for Cat เลือกใช้อุปกรณ์ไฮเทคและ Gadget สุดล้ำตัวเลือกใหม่สำหรับคนรักสัตว์ Plant for Cats ยังมีการจัดสวนและเลือกปลูกต้นไม้  ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง เช่น ไผ่เงิน ผักชีช้าง ตำแยแมว เปปเปอร์มินต์ สร้างสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Cat Journey in The World” ด้วยแรงบันดาลใจที่อยากพาน้องแมวไปเที่ยวกับเราได้ทุกที่ เริ่มจากพื้นที่ภายในบ้าน ชั้นล่าง : Cat In Forest , ชั้น 2 ห้องนอน Master Bedroom : Cat Meows Underwater , ชั้น 2 ห้องนอนที่ 2 : Cat In The North Pole และชั้น 2 ห้องทำงาน : Cat In The Sahara

โดย โครงการ “ศุภาลัย วิลล์ วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 7 ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 44 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว ขนาด 52-60 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 5-6.2 ล้านบาท และบ้านแฝด ขนาด 36-42 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 3.7-4 ล้านบาท จำนวน 236 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยได้เปิดพรีเซลาไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายประมาณ 20% คาดว่าจะปิดการขายทั้งหมดภายในปี 2568

ทั้งนี้ทำเลรังสิต-ลำลูกกา ถือเป็นโซนแรกๆที่บริษัทเข้ามาพัฒนาโครงการนานหลายสิบปี สามารถพัฒนาโครงการออกสู่ตลาดไปแล้วคิดเป็นมูลค่า 20,000-30,000 ล้านบาท และยังมีแลนด์แบงก์ในทำเลดังกล่าวเกือบ 10 แปลง ซึ่งสามารถพัฒนาได้รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี ถือเป็นโซนอันดับต้นๆของพอร์ตโครงการแนวราบ ที่สามารถสร้างยอดขายต่อปีได้สูงประมาณ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันที่ดินในโซนดังกล่าวราคาอยู่ที่ประมาณกว่า 6-8 ล้านบาท/ไร่ ถือเป็นทำเลที่ดีมานด์โซนเหนือยังมีความต้องการอีกมาก ยิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงคูคต – ลำลูกกา อีก 4 สถานี คือ สถานีคลอง 3, สถานีคลอง 4, สถานีคลอง 5 และสถานีวงแหวนตะวันออก แล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ ก็จะยิ่งทำให้การเดินทางในทำเลนี้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

“จากการศึกษาข้อมูล พบว่าการเลี้ยงสัตว์ในที่อยู่อาศัยนั้นมีปัญหามากมาย ทั้งจากคนที่เลี้ยงสัตว์และไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ สังเกตได้จากที่ผ่านมาคอนโดฯที่เน้นการเลี้ยงสัตว์ได้ จะมีทั้งยอดขายที่ดีและไม่ดี ปิดการขายได้ช้า เพราะจะมีลูกค้าบางส่วนที่ไม่ชอบสัตว์เลี้ยง ซึ่งก็จะไม่ซื้อคอนโดฯนั้นๆ เพราะไม่อยากเกิดปัญหา ในขณะที่โครงการแนวราบจะตอบโจทย์การเลี้ยงสัตว์ได้ดีกว่า ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ ซึ่งในส่วนของศุภาลัยฯเองในปีนี้ยังคงไม่มีการพัฒนาโครงการเพื่อสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจน แต่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ประมาณปี 2567-2568 ซึ่งขึ้นอยู่กับทำเล ขนาดโครงการ กลุ่มลูกค้า และโอกาส ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ”นายไตรเตชะ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมีสินค้าพร้อมโอน (สต็อก) ในมือรวมมูลค่าประมาณ 19,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมประมาณ 15,000 ล้านบาท และสินค้าประเภทแนวราบประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนในการสนับสนุนการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นบริษัทจึงยังคงเป้าหมายรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ไว้ที่ 36,000 ล้านบาท

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*