พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยทิศทางเศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาส 3 เริ่มเห็นทิศทางชัดเจนมากขึ้นจากปัจจัยบวกสนับสนุนหลายส่วน ส่งผลให้ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของ9บริษัทมหาชนทำกำไรรวม 2.7 หมื่นล้าน แสนสิริแชมป์กำไรสูงสุด ขณะที่รายได้รวมทะลุ 1.6 แสนล้าน เอพีฯ แชมป์รายได้สูงสุด

นายอนุกูล  รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเริ่มเห็นทิศทางเศรษฐกิจไทยชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยมีปัจจัยบวกหลายส่วนในการสนับสนุนเศรษฐกิจ  ทั้งภาครัฐบาลมีนโยบาย Free Visa ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซัน ที่เดินทางเข้ามาเพื่อการพักผ่อนในระยะสั้น และหาที่อยู่เป็นที่พักอาศัยหลังที่ 2 ในระยะยาว ขณะที่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างแข่งขันจัดแคมเปญครั้งใหญ่เพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อและเตรียมโอนปลายปี  ส่งเสริมให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์โตขึ้นแบบประคองตัว

สอดคล้องกับข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ระบุว่ายังคงมีจำนวนหน่วยโอนฯห้องชุดของคนต่างชาติอยู่ที่ 3,365 ยูนิต มูลค่า 17,048 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 11.6% และ 21.1% ของการโอนฯห้องชุดทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีการขยายตัวในเชิงจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 0.4%

อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าติดตามและเตรียมรับมือในอีกหลายประเด็น ทั้งทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย แนวโน้มราคาพลังงานและราคาค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น กดดันให้ต้นทุนและอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น  รวมถึงสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ของปี 2566ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 1.5% โดยลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งขยายตัวอยู่ที่ 1.8%

ขณะที่ผลสำรวจการพัฒนาตลาดที่อยู่อาศัยในไตรมาสที่ 3 พบว่า ภาพรวมของอสังหาฯ มีทิศทางที่ทรงตัว โดยอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในระดับราคาปานกลางถึงราคาต่ำ แต่ในระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูงถึงราคาสูง ไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อ เพราะเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีความพร้อมในการขอสินเชื่อมากกว่า

“ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา GDPขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่ผู้ประอบการในตลาดหลักทรัพย์กลับสร้างผลประกอบการทั้งกำไร  รายได้  และอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีของตลาดอสังหาฯ แต่อาจจะมีลุ้นผลประกอบการในไตรมาสสุดท้ายปลายปีนี้ เพราะมีหลายบริษัทยังคงทยอยเปิดโครงการใหม่ๆกันอย่างต่อเนื่อง”

9 บริษัทอสังหาฯ ทำกำไรรวม 2.7 หมื่นล้าน แสนสิริแชมป์กำไรสูงสุด
ทั้งนี้จากการเปิดเผยข้อมูลผลประกอบการในช่วง 9เดือนแรกของผู้ประกอบการอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์ พบว่า บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ทำกำไรสุทธิได้สูงถึง 4,760 ล้านบาท ครองแชมป์อันดับ 1 เติบโตสูงถึง 91.3%  รองลงมาเป็นบริษัทเอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิ 4,719 ล้านบาท ลดลง 0.1%  บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 3,989 ล้านบาท  ลดลง 36.9%  บริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 3,972ล้านบาท ลดลง 33.8%

บริษัทออริจิ้น จำกัด(มหาชน) มีกำไรสุทธิ 2,671 ล้านบาท  ลดลง 2.5%  บริษัทพฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 2,082 ล้านบาท เติบโต 30.1%  บริษัทควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 1,896 ล้านบาท เติบโต 8.9% บริษัทเอสซี แอสเสทฯ กำไรสุทธิ 1,631 ล้านบาท เติบโต 0.6%   และบริษัทเฟรเซอร์สฯ กำไรสุทธิ 1,537 ล้านบาท ลดลง 10.4%

รายได้รวมทะลุ 1.6 แสนล้าน เอพีฯ แชมป์รายได้สูงสุด
ส่วนยอดรับรู้รายได้ช่วง 9เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทเอพี ไทยแลนด์ฯ มีรายได้รวม 28,921 ล้านบาท บริษัทแสนสิริฯ ยอดรายได้รวมอยู่ที่ 28,047 ล้านบาท บริษัทศุภาลัยฯ มียอดรายได้รวม 21,538 ล้านบาท บริษัทแลนด์ แอนด์เฮ้าส์ฯ มียอดรายได้รวม 21,289 ล้านบาท

กลุ่มบริษัทพฤกษาฯ ยอดรายได้รวม 19,900 ล้านบาท บริษัทเอสซี แอสเสทฯ ยอดรายได้รวม 15,821 ล้านบาท บริษัทเฟรเซอร์สฯ ยอดรายได้รวม 13,103 ล้านบาท บริษัทออริจิ้นฯ มียอดรายได้รวม 12,686 ล้านบาท และบริษัทควอลิตี้ เฮ้าส์ มียอดรายได้รวม 6,885 ล้านบาท

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*