แสนสิริเดินหน้าตามโรดแมปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ชู “เชียงใหม่” หนึ่งใน Strategic Location เมืองท่องเที่ยวสำคัญ เปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,600 ล้านบาท มีทั้งบ้านเดี่ยว “เศรษฐสิริ รวมโชค” เน้นนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น สู้ PM 2.5 ขณะที่ “อณาสิริ พายัพ” Sold out! ปิดการขาย 2 เฟสรวด คิดเป็น 50% ของโครงการ ล่าสุดเปิดตัวคอนโดฯ เมคิน เฮาส์ แบรนด์ HAUS โครงการแรกในเชียงใหม่และต่างจังหวัด พร้อมไฮไลท์คอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในเชียงใหม่ ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท*

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ แสนสิริเดินหน้าต่อตามแผน NAVIGATING THE FUTURE: RESILIENT GROWTH พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจผ่านกลยุทธ์ Strategic Location มุ่งเน้นขยายโครงการในเมืองท่องเที่ยวและจังหวัดใหญ่ โดยจงหวัดเชียงใหม่นับเป็นหนึ่งใน Strategic Location ที่สำคัญของแสนสิริ จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเติบโตสูง เห็นได้จากแผนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชียงใหม่ปี 2567 ที่มีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่น้อยกว่า 40 ล้านคนต่อครั้ง คาดการณ์รายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 1.86 แสนล้านบาท โดยเฉพาะรายได้จากการท่องเที่ยวในเดือนมีนาคมที่คาดว่าจะมีมากกว่า 9 พันล้านบาท และสูงขึ้นต่อเนื่องในเดือนเมษายนที่มีเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังได้รับอานิสงส์จากมาตรการฟรีวีซ่าไทย-จีน ที่คาดว่าจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเชียงใหม่ยังติดอันดับเมืองยอดนิยมสำหรับชาวต่าวชาติในวัยเกษียณอีกด้วย

โดยในปี 2567 นี้บริษัทได้วางแผนเปิดตัว 3 โครงการใหม่ในเชียงใหม่ มูลค่ารวม 3,600 ล้านบาท ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าในเชียงใหม่ ได้แก่ โครงการเศรษฐสิริ รวมโชค บ้านเดี่ยววิวดอยสุเทพระดับลักชัวรีหลังใหญ่ สไตล์ Modern Classic พร้อมนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่นสู้ PM 2.5 นวัตกรรมบ้านสีเขียวเพื่อการอยู่อาศัย ราคาเริ่มต้น 20 – 35 ล้านบาท* เตรียมเปิดชมโครงการครั้งแรกวันที่ 23 – 24 มีนาคมนี้

ขณะที่โครงการอณาสิริ พายัพ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด สามารถปิดการขาย 2 เฟสไปแล้วคิดเป็น 50% ของโครงการ หลังเปิดพรีเซลในเดือนกุมภาพันธ์ ทีผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัว เปิดตัว เมคิน เฮาส์ มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท คอนโดมิเนียมบรรยากาศรีสอร์ทแบรนด์ Haus โครงการแรกในจังหวัดเชียงใหม่และในต่างจังหวัด หลังประสบความสำเร็จกับการรพัฒนาแบรนด์ HAUS ในกรุงเทพฯ มาแล้ว 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 14,000 ล้านบาท และเป็นคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในเชียงใหม่ รับเทรนด์ Pet Parent เลี้ยงสัตว์เป็นลูก พร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางและวัสดุภายในพื้นที่อยู่อาศัย ที่คำนึงถึงการอยู่อาศัยของคนร่วมกับสัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง อาทิ Pet Yard สวนสำหรับสัตว์เลี้ยง ที่มีดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานพื้นที่ที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการใช้เวลาร่วมกันระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง

ทำเลโครงการเดินทางเข้าออกเมืองสะดวก ติดถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ – ลำปาง สามารถเชื่อมต่อได้ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์อย่าง เซ็นทรัล เชียงใหม่ ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 200 เมตร สถาบันการศึกษาชื่อดัง อาทิ โรงเรียนดาราวิทยาลัย โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย นอกจากนั้นยังใกล้สถานพยาบาล อาทิ  โรงพยาบาลแมคคอร์มิค รวมถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 10 กิโลเมตร

“เมคิน เฮาส์ มาพร้อมกับแบรนด์แท็กไลน์ EMBRACE UNHURRIED PLEASURE ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพักผ่อน โดยโครงการถูกออกแบบด้วยการนำเอาธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเชียงใหม่เข้ามาใช้  เช่น Façade ดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากไอหมอกบนดอย รวมถึงคอนเซ็ปต์ของดอยและภูเขา มาสะท้อนในการออกแบบพื้นที่สีเขียว บนพื้นที่ส่วนกลางกว่า 1.7 ไร่ พร้อมสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกยาว 55 เมตร ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ ห้องทำงานและเก้าอี้นวด สวนสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ”

โครงการตั้งอยู่พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise 2 อาคาร จำนวนทั้งหมด 250 ยูนิต เน้นห้องขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ความต้องการของชาวเชียงใหม่ที่อยากได้คอนโดฯขนาดกว้างเหมือนอยู่บ้าน โดยมีขนาดตั้งแต่ 34.90 – 89.50  ตารางเมตร ส่วนห้องขนาดใหญ่สุด 3 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ รองรับสมาชิกในครอบครัวทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท*

ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นว่าทุกโครงการของแสนสิริในเชียงใหม่ที่เปิดตัวปีนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ต่อยอดความสำเร็จของแสนสิริในเชียงใหม่ที่เริ่มตั้งแต่คอนโดฯโครงการแรกที่มีลูกค้ามาต่อคิวก่อนล่วงหน้า 1 วันเพื่อรอจองคิวซื้อห้องชุดโครงการดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท เชียงใหม่ ขณะที่คอนโดฯอีกหลายโครงการในทำเลใกล้เซ็นทรัล เชียงใหม่ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีและปิดการขายอย่างรวดเร็ว รวมถึงโครงการเดอะ เบส ไฮท์ เชียงใหม่ คอนโดฯพร้อมอยู่โครงการล่าสุด ก็สร้างยอดขายไปแล้วถึง 70% ขณะที่โครงการก่อนหน้ายังสร้าง Value-added ให้กับลูกค้า ทั้งอยู่อาศัยเองและปล่อยเช่าโดยมี Yield เฉลี่ยสูงถึง 6%

โดยแสนสิรินับเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวมาแล้วรวม 15 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนสะสม 14,000 ล้านบาท ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*