กองทรัสต์ WHAIR เตรียมเปิดจองซื้อ ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 ชูผลตอบแทนสูง 8.9% ต่อปี พร้อมลงทุนทรัพย์สินศักยภาพในเขต EEC เติบโตอย่างต่อเนื่อง

กองทรัสต์ WHAIR กองรีทจาก WHA Group ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม WHA Group เตรียมเปิดจองซื้อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 นี้ โดยเปิดจองซื้อสำหรับผู้ถือหน่วยเดิมในวันที่ 2, 6-9 ธันวาคม และเปิดจองซื้อสำหรับประชาชนทั่วไป ในวันที่ 14-16 ธันวาคม 2565 นี้

กองทรัสต์ที่เป็นที่รู้กันในวงการลงทุนว่าเป็นกองทรัสต์ที่มีคุณภาพการบริหารที่ดี เติบโตต่อเนื่อง และจ่ายผลตอบแทนที่ดีมาตลอด ที่สำคัญคือมี “ภูมิต้านทาน” ต่อทุกสภาพเศรษฐกิจและแทบไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาเลย โดยล่าสุดกองทรัสต์ WHAIR ได้รับรางวัล Outstanding REIT Performance จากงาน SET AWARDS 2022 ที่จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งรางวัลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทรัสต์ WHAIR ที่มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่นและยั่งยืนเหนือสภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในสถานการณ์โควิด-19

“WHAIR” เป็นกองทรัสต์ที่ลงทุนใน “โรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่า” โดยจุดเด่นที่สุดของกองทรัสต์นี้ คือ กว่า 90% ของทรัพย์สินที่ลงทุน ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม EEC ทั้งจังหวัด ระยอง และชลบุรีซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์การลงทุนของประเทศไทย

อย่างที่เราทราบกันดีว่า EEC เป็นการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างวางแผนลงทุน ลงแรงสร้างโครงการทั้งด้านสารณูปโภค และการพัฒนาด้านต่างๆ โดยล่าสุดพื้นทีื EEC ได้รับการอนุมัติเงินลงทุนในปี 2561 – 2565 ไปแล้ว 1.8 ล้านล้านบาท

และยังคงมีเป้าหมายการลงทุนใน EEC ระหว่างปี 2566-2570 อยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย ยานยนต์สมัยใหม่ 40,000 ล้านบาทต่อปี ,ดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ 50,000 ล้านบาทต่อปี ,การแพทย์และสุขภาพ 30,000 ล้านบาทต่อปี, การขนส่งและโลจิสติกส์อีก 30,000 ล้านบาทต่อปี รวม ประมาณ 400,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งหมดนี้จะทำให้เขตพื้นที่ EEC กลายเป็นพื้นที่ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจถึง 7-9% ต่อปี ซึ่งสูงที่สุดในประเทศไทย ทำให้ความต้องการทั้งโรงงานและคลังสำเร็จรูปให้เช่าในพื้นที่นี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดมาทุกๆปี

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ทรัพย์สินของ WHAIR ทั้งหมดตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมที่พัฒนาโดย WHA Group ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม พร้อมโซลูชั่นครบวงจรด้านสาธารณูปโภค และพลังงาน ในประเทศไทย จึงมั่นใจได้ว่าทุกทรัพย์สินที่ถูกออกแบบและพัฒนาโดยมืออาชีพระดับต้นๆของประเทศด้านนี้โดยตรง นอกจากนี้ WHA Group ยังเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยและเขตพื้นที่ EEC อีกด้วย

ปัจจุบัน กอง WHAIR มีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่ารวมทั้งหมด 146 ยูนิตโดยแบ่งเป็น โรงงาน 121 ยูนิตและคลังสินค้า 25 ยูนิต พื้นที่ให้เช่ารวมทั้งหมด 380,632 ตร.ม.โดยมีอัตราการเช่ากว่า 90% ซึ่งเป็นอัตราการเช่าสูง ผู้เช่าพื้นที่เป็นบริษัทที่มีศักยภาพจากหลากหลายอุตสาหกรรม โดยแบ่งเป็นผู้เช่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ 32.8% ,อุปโภคบริโภค 28.6% ,โลจิสติกส์ 16.1% , อิเล็คทรอนิกส์ 7.3% , บรรจุภัณฑ์ 4.8% , และอื่นๆอีก 10.4% และมีหลากหลายสัญชาติ เช่น จีน ยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และ เอเชีย ตามลำดับ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระจายตัวของผู้เช่าทั้งภาคอุตสาหกรรมและสัญชาติ ที่เหมาะสม อีกทั้งเป็นการกระจายความเสี่ยงทั้งของภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการเอง

และช่วงนี้ ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการขยายการลงทุนที่สำคัญอีกครั้งของ “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล หรือ WHAIR ซึ่งกำลังจะมีการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 4 โดยจะเปิดโอกาสให้ทั้งผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีสิทธิและประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสร่วมลงทุน

สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 นี้เป็นการลงทุนในอาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่าจำนวน 14 ยูนิต พื้นที่ 48,186 ตร.ม. ในพื้นที่ 7 แห่งของจังหวัดชลบุรี ระยอง และปราจีนบุรี โดย 98% ของทรัพย์สินที่เข้าลงทุนในครั้งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม EEC

1.WHA Chonburi Industrial Estate 1 (WHA CIE1)
นิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ ชลบุรี1 โรงงาน 1 ยูนิต 660 ตารางเมตร

2.WHA Eastern Seaboard Industrial Estate 1 (WHA ESIE1)
นิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 โรงงาน 1 ยูนิต 3,760 ตารางเมตร

3.Eastern Seaboard Industrial Estate (ESIE)
นิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) โรงงาน 4 ยูนิต 10,720 ตารางเมตร

4.Hi-Tech Kabin Industrial Estate (KABIN)
นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค กบินทร์ โรงงาน 1ยูนิต 1,152 ตารางเมตร

5.WHA Logistics Park 1 (WHA LP1)
ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ พาร์ค 1 คลังสินค้า 2 ยูนิต 8,844 ตารางเมตร

6.WHA Logistics Park 2 (WHA LP2)
ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ พาร์ค 2 คลังสินค้า 3 ยูนิต 12,623 ตารางเมตร

7.WHA Logistics Park 4 (WHA LP4)
ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ พาร์ค 4 คลังสินค้า 2 ยูนิต 10,427 ตารางเมตร

ซึ่งหลังจากการเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 แล้วจะทำให้

1 สัดส่วนผู้เช่าจะถูกแบ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ 31.5% อุปโภคบริโภค 27.3% , โลจิสติกส์ 15.0% , อิเล็คทรอนิกส์ 9.9% , บรรจุภัณฑ์ 4.3% , และอื่นๆอีก 12.0%

2. รายได้รวม เพิ่มขึ้นจาก 775.72 ล้านบาท เป็น 878.63 ล้านบาท*

3. เงินสดสุทธิที่สามารถนำมาปันส่วนแบ่งกำไรและแบ่งส่วนทุนจาก 545.10 ล้านบาท เป็น 624.77 ล้านบาท*

4. ประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทน (DPU) จาก 0.63 บาท/หน่วย เป็น 0.64 บาท/หน่วย* (ซึ่งจากการประมาณการ ผลตอบแทนจะคิดเป็นประมาณ 8.9% ต่อปี คิดบนราคาเสนอขายสูงสุด 7.02 บาทต่อหน่วย

หมายเหตุ: *อ้างอิงจากงบกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติสำหรับปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 สอบทานโดย ผู้สอบบัญชี

จึงนับได้ว่า การลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมครั้งที่ 4 ของ WHAIR นั้น มีความน่าสนใจมากทั้งในด้านการขยายธุรกิจที่มั่นคง แข็งแรงและด้านผลประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่จะได้รับเพิ่มมากขึ้น

สรุปข้อดี 5 ประการ ที่ทำให้การลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 ของ WHAIR น่าสนใจมาก

1. ทรัพย์สินที่ WHAIR จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 นั้น ส่วนใหญ่ล้วนตั้งอยู่ในศูนย์กลางของอุตสาหกรรมและศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของประเทศ อย่าง EEC ทั้งสิ้น ซึ่งเราสามารถมองเห็นการเติบโตในอนาคตได้อย่างไม่ต้องสงสัย

2. ทรัพย์สินส่วนใหญ่มีผู้เช่าอยู่แล้ว และมีคุณภาพที่ดีมีการกระจายตัวของอุตสาหกรรมที่เหมาะสม

3. WHAIR จะมีขนาดกองที่ใหญ่มากขึ้น รวมไปถึงมีการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

4. ทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนได้รับชดเชยรายได้จากบริษัทเจ้าของทรัพย์สินเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น หากผู้เช่าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เป็นระยะเวลาถึง 3 ปี

5. ประมาณการผลประโยชน์ตอบแทนและเงินลดทุนต่อหน่วย เพิ่มสูงขึ้นทันทีภายหลังจากการทำรายการ

ในยุคที่ตลาดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวนมากขึ้น ลงทุนยากขึ้น ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อสูงและดอกเบี้ยกลับเป็นขาขึ้นแล้ว ด้วยปัจจัยความได้เปรียบของทำเลที่ตั้งรวมทั้งแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนใน EEC แล้ว การลงทุนในกองทรัสต์ WHAIR จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการลงทุนที่สามารถคาดหวังเงินปันผลได้ค่อนข้างแน่นอน รวมทั้งมีความเสี่ยงในการลงทุนที่จำกัด โดยมีมืออาชีพที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจนี้โดยตรงมาเป็นผู้บริหารทรัพย์สินให้

WHAIR กำลังเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินครั้งที่ 4 โดยจะมีช่วงระยะเวลาการเสนอขาย และช่องทางการจองซื้อดังนี้

1. ผู้ถือหน่วยเดิมที่มีสิทธิจองซื้อ: สามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 2, 6-9 ธันวาคม 2565

2. ประชาชนทั่วไป*: สามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 14-16 ธันวาคม 2565

3 ช่องทางการจองซื้อ: ผ่านทางเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) และสาขาของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

4. ผู้ลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทย โทร 02 888 8888 กด 819 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ WHA Industrial Leasehold Real Estate Investment Trust, WHAIR (wha-ir.com)

หมายเหตุ:
*การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่าย เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน
**ผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธการจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมใน กรณีที่ผู้จองซื้อเป็นสัญชาติอื่นใดที่มิใช่สัญชาติไทย อย่างไรก็ดี รายชื่อสัญชาติของผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่ไม่ได้รับการเสนอขายหน่วยทรัสต์จะถูกประกาศผ่านเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อนวันจองซื้อหน่วยทรัสต์

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

บทความโดย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*