“เสนาดีเวลลอปเม้นท์ สานต่อมูลนิธิบ้านร่วมทางฝัน เปิดตัวโครงการฯเพื่อสังคม “บ้านร่วมทางฝัน 6” นำกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายบริจาคให้โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือและรักษาผู้ป่วย พัฒนาเป็นคอนโดฯไฮไรส์สูง 19 ชั้นจำนวน 354 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 24-47 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2569 

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินงานของมูลนิธิบ้านร่วมทางฝัน  ผ่านการพัฒนาโครงการบ้านร่วมทางฝันมาตั้งแต่ปี 2546 มาจนถึงปัจจุบัน มีโครงการที่เปิดดำเนินการมาแล้ว 6 โครงการ โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงการเพื่อเป็นการตอบแทนสังคม ด้วยการนำกำไรทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายไปสนับสนุนและช่วยเหลือโรงพยาบาลภาครัฐ

พร้อมทั้งได้นำหลักสากลด้านความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) มาเชื่อมโยงเข้ากับพันธกิจและเป้าหมายการจัดการด้านความยั่งยืนของบริษัท เพื่อเป็นแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจ

โดยโครงการบ้านร่วมทางฝัน 6 ที่อู่ระหว่างพัฒนา จะนำกำไรทั้งหมดมอบให้โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางการแพทย์ เพื่อยกระดับการรักษาผู้ป่วย และลดความเหลื่อมล้ำให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ และเพิ่มโอกาสให้กับผู้ที่มารักษาได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที

ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า ความพร้อมทางด้านสาธารณสุขและทางการแพทย์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด  เพื่อให้สอดรับกับจำนวนผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันโรงพยาบาลภาครัฐหลายแห่งยังขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอยู่มาก   แม้ว่าจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แต่การรักษาจะสำเร็จไปไม่ได้หากยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ดังนั้นโรงพยาบาลจะนำเงินที่ได้รับมอบจากมูลนิธิบ้านร่วมทางฝัน ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วยและการศึกษาแพทย์ต่อไป

สำหรับรายละเอียดของโครงการบ้านร่วมทางฝัน 6  ตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนีบนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 19 ชั้น ห้องพักอาศัยทั้งหมด 354 ยูนิต มีห้องชุดให้เลือกตั้งแต่แบบ 1
BEDROOM,1BEDROOM PLUS และ 2 BEDROOM ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 24 ตารางเมตรจนถึง 47 ตารางเมตร พร้อมที่จอดรถมากกว่า 134 คัน ราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน ไตรมาส 2 ปี 2569

ภายในโครงการพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ Lobby lounge, สระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อม Jacuzzi,ฟิตเนส, สวน Rooftop, Laundry Room, ห้องประชุม, Co-Working Space, Wi-Fi บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง, กล้องวงจรปิด CCTV, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการแบ่งโซนระหว่างลูกบ้านและผู้มาติดต่อชัดเจน พร้อมพื้นที่รองรับจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(EV Charger ), Access Card สำหรับเข้า – ออก และระบบควบคุมรถเข้า-ออกโครงการแบบบลูทูธ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*